A CLASSIC SUSPENDER

BY Staff writer Two

  • 29 กรกฏาคม 2559
  • 18,596

Suspender เรียกเป็นภาษาไทยว่า “สายเอี๊ยม” หรือสายรั้งกางเกง หลายคนคงนึกภาพตามได้ไม่ยาก ซึ่งในสมัยก่อนมีการใช้สายเอี๊ยมเพื่อช่วยรั้งและพยุงกางเกงตัวหลวมไม่ให้หลุด แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปคุณสมบัติของเอี๊ยมถูกนำมาปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของแฟชั่นมากขึ้น เปรียบเสมือนเป็นแอคเซสเซอรี่เสริมในการแต่งกายของทั้งชายและหญิงที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร เราก็ยังคงหยิบจับเจ้าไอเท็มชนิดนี้มามิกซ์แอนด์แมชได้อยู่เสมอ

 

 

ถ้าพูดถึงแฟชั่นสายเอี๊ยม เราคงนึกภาพย้อนกลับไปถึงแฟชั่นยุคเรโทรที่ให้กลิ่นอายถึงความคลาสสิค ภาพของนักธุรกิจหนุ่มจากชนชั้นสูงในสมัยนั้นที่มักจะใช้สายเอี๊ยมประกอบการแต่งกาย ช่างดูน่าประทับใจและมีเส่นห์อยู่ไม่น้อย และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่แฟชั่นในยุคนั้นอย่างสายเอี๊ยมก่อให้เกิดแรงบันดาลใจต่อกลุ่มบุคคลจากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเวลายาวนานก่อนจะเริ่มค่อยๆ หายไปในยุคศตวรรษที่ 20 แต่ก็ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง วันนี้เราเลยนำประวัติสายเอี๊ยมมาเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้รู้กัน

 

สำหรับประวัติความเป็นมาของสายเอี๊ยมที่เราเห็นกันนั้นมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ประเทศฝรั่งเศสโดยสมัยนั้นเป็นเพียงแค่เส้นริบบิ้นผูกเข้ากับห่วงกางเกงเท่านั้นและถูกใช้คำนึงถึงประโยชน์เพื่อรั้งกางเกงเอวหลวมมากกว่าความสวยงามต่างกับปัจจุบัน แต่กว่าจะพัฒนาจนเป็นแบบที่เราเห็นในรูปแบบสายเอี๊ยมนั้นก็ในศตวรรษที่ 1820 โดยดีไซน์เนอร์ชาวบริติสชื่อ Albert Thurston ที่ผลิตมันออกมาเป็นสายเอี๊ยม ( Suspenders หรือชาวอังกฤษเรียกว่า Braces ) อันแรกซึ่งทำมาด้วยหนังล้วนและยังผลิตขายจนมาถึงปัจจุบันนี้ 

 

 

 

ในเชลฟ์ของสตรีทแบรนด์จนถึงแบรนด์ระดับไฮเอ็นยังคงมีไอเท็มอย่าง Suspender ให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าที่หลงไหลในการแต่งกายแบบย้อนยุคได้จับจองเป็นเจ้าของกันอยู่จำนวนมาก แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในของวินเทจก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายสินค้ามือสองตามท้องตลาด ส่วนสนนราคาย่อมขึ้นอยู่กับความเป็นมาเป็นไปของแต่ละแบรนด์ อาจจะเริ่มจากหลักร้อยจนถึงหลักหมื่นก็เป็นไปได้

 

 

สำหรับวิธีการใส่สายเอี๊ยมนั้นควรคำนึงถึงประโยชน์เพราะใช่ว่ามันจะใส่สบายเหมือนเข็มขัดเสมอไป เราเลยมีวิธีว่าจะแน่ใจอย่างไรว่าคุณใส่สายเอี๊ยมได้ถูกต้องและเหมาะกับเสื้อผ้าของคุณ

 

1. Feel Better

เมื่อคุณใส่สายเอี๊ยมไม่ควรใส่มันแน่นหรือรัดจนเกินไปเพราะแย่าลืมว่าสายเอี๊ยมนั้นไม่มีหัวเข็มขัด ถ้ามันแน่นเกินไปมันอาจจะพร้อมดีดกลับมาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นคุณควรจัดให้สายเอี๊ยมแนบพอดีกับลำตัวและลองขยับร่างกายว่ามันแน่นพอไม่รัดแน่นจนคุณหายใจไม่สะดวก

 

2. Expand As You Will

แน่นอนว่าในชีวิตประจำวันของคุณต้องทั้งกินและดื่ม สายเอี๊ยมอาจจะขยายพอดีตัวเมื่อคุณออกจากบ้านแต่อย่าลืมว่าเมื่อหน้าท้องหรือเอวคุณขยายควรปลดมันออกให้พอดีกับตัวคุณด้วย ไม่งั้นมันอาจจะหลุดดีดมาโดนหน้าคุณเพราะความอ้วนได้นะ

 

 

สำหรับใครที่คิดอยากลองเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวมาเป็นแบบย้อนยุค เริ่มแรกอยากแนะนำให้หยิบเอาของที่มีอยู่ในตู้เสื้อผ้ามาใช้ก่อน เช่น เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนเป็นสามส่วน สวมด้วยกางเกงผ้าทรงตรงพอดีตัวพับปลายขาเล็กน้อย ใส่กับรองเท้าหนังจะมือหนึ่งมือสองอันนี้ไม่ว่ากัน สุดท้ายอย่าลืมหาสายเอี๊ยมสีพื้นซักเส้นมาคอมพลีทลุคเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ เท่านี้คุณก็จะได้ลุคใหม่ๆอีกหนึ่งลุคให้กับตัวเอง

 

 

การแต่งตัวเป็นเรื่องของความสนุกสนาน ถึงแม้จะไม่ได้ถูกระบุว่ามีข้อถูกข้อผิด แต่ความยากคือจะทำอย่างไรเมื่อเราเอาของหลายๆสิ่งมารวมกันแล้วทำให้ดูไม่เอ้าท์ไม่เชย นอกจากจะต้องดูที่แบบหรือแพทเทิร์นของเสื้อผ้าแล้ว เรื่องของสีสันก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สามารถสะท้อนถึงรสนิยมของผู้เลือกใช้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นควรเพลย์เซฟด้วยการเลือกมิกซ์แอนด์แมชเสื้อผ้าในสีโทนขาวดำ น่าจะปลอดภัยที่สุดทั้งในสายตาเราและสายตาของคนที่ได้พบเห็น