Lamborghini • Huracán LP 610-4

22 สิงหาคม 2560
18,332

แลมโบร์กินี ได้ใช้ความพิถีพิถันในการออกแบบ ฮูราคาน LP 610-4 ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นอย่างไร้ที่ติ จุดเริ่มต้นของการออกแบบฮูราคาน มาจากภาพตัดของเงารถที่มีเป้าหมายว่าจะต้องเป็นรถที่มีเส้นเพียงเส้นเดียวลากยาวจากปลายสุดของหน้ารถ ข้ามส่วนห้องโดยสารและจรดลงไปยังท้ายรถ หน้าต่างข้างรถมีรูปแบบหกเหลี่ยมให้ดูเหมือนอัญมณีที่ฝังอยู่ด้านข้างของฮูราคาน และในยามพลบค่ำจะโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีแสงจากหลอด LED ในทุกจุด และรวมไปถึงโคมไฟหน้ารถด้วย ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในเซกเมนต์ของรถซุปเปอร์สปอร์ตคาร์

โครงสร้างแชสซีไฮบริดรูปแบบใหม่ของ ฮูราคาน LP 610-4 ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ผสมงานศิลปะด้วยการผสานวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และอลูมิเนียมเข้าด้วยกัน แชสซีเบาพิเศษนี้เป็นพื้นฐานที่ทำให้น้ำหนักตัวรถเปล่าก่อนเติมของเหลวมีน้ำหนักเบามากเพียง 1,422 ก.ก. และด้วยความแข็งแกร่งของรถการันตีได้ว่าจะสามารถขับขี่ได้แม่นยำดั่งรถแข่ง

Cr. Image • http://www.autoguide.com/

เครื่องยนต์ V10 ตัวใหม่ของฮูราคาน สามารถสร้างพละกำลังได้มหาศาลจากความจุ 5.2 ลิตร ผลิตกำลังได้ 448 กิโลวัตต์ / 610 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาทีและทำแรงบิดได้สูงสุดถึง 560 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที และ "Iniezione Diretta Stratificata " ใหม่ได้รวมหัวฉีดทั้งแบบ direct และ indirect injection เข้าด้วยกันทำให้กำลังและแรงบิดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับ กัลลาโดร์ โดยที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นและปล่อยไอเสียน้อยลง

Cr. Image • http://www.autoguide.com/

ด้วยอัตราส่วนของแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 2.33 ก.ก./แรงม้า แลมโบร์กินี ฮูราคาน จึงมีสมรรถนะที่น่าเกรงขาม เพื่อให้มั่นใจในความว่องไว สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 325 ก.ม./ช.ม.ทั้งยังมีอัตราเร่งจาก 0-100 ก.ม./ช.ม.ในเวลาเพียง 3.2 วินาที และ 0-200 ก.ม./ช.ม. ในเวลาเพียง 9.9 วินาที และเทคโนโลยีระบบ Stop & Start ที่ทำให้การบริโภคเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยตามมาตรฐาน ECE ได้ลดลงมาเป็น 12.5 ลิตรต่อ 100 ก.ม. หรือ 8 ก.ม./1 ลิตร และคายคาร์บอนเพียง 290 กรัมต่อก.ม.

Cr. Image • http://www.autoguide.com/

พละกำลังจากเครื่องสิบสูบถูกส่งลงไปยังพื้นถนนผ่านระบบเกียร์คลัทช์คู่เจ็ดสปีดใหม่ในชื่อ "Lamborghini Doppia Frizione" (LDF) สู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้แผ่นคลัทช์ไฮดรอลิคหลายชั้น โหมดการขับขี่สามแบบที่ออกแบบมาสำหรับถนนไปจนถึงสนามแข่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านสวิทช์ drive select บนพวงมาลัยภายใต้ชื่อเรียกว่า ANIMA (ภาษาอิตาลี่แปลว่าจิตวิญญาน) "Adaptive Network Intelligent Management" ซึ่งจะปรับค่าของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบ ESC เพื่อความเสถียรในการทรงตัวไปพร้อมๆกับระบบที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนอื่นๆ

Cr. Image • http://www.autoguide.com/

ล้อของ แลมโบร์กินี ฮูราคาน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 นิ้วและมาพร้อมกับระบบเบรกคาร์บอนเซรามิคที่ให้พลังการหยุดอันมหาศาล และยังมีออพชั่น Lamborghini Dynamic Steering ที่เป็นการบังคับเลี้ยวแบบแปรผันทั้งยังระบบ MagneRide สำหรับปรับระบบช่วงล่างด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า และระบบทั้งสองจะสัมพันธ์กับการปรับตั้งของระบบ ANIMA ด้วย

Cr. Image • http://www.autoguide.com/

หน้ารถทรงลูกศรของ ฮูราคาน หันหัวลงพื้นเหมือนปลายจมูกฉลามพร้อมรอยพับสองเส้นเพื่อเพิ่มเหลี่ยมสันบนฝากระโปรง ไฟหน้าเหลี่ยมที่เรียบไปกับตัวรถถูกประกอบขึ้นด้วยหลอด LED เท่านั้นซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของรถซุปเปอร์สปอร์ต แนวไฟที่เป็นเส้นจะส่องสว่างในเวลากลางวันเป็นรูปตัว Y สองตัวในโคมไฟหน้าทั้งสองข้างเพื่อแสดงให้ ฮูราคาน ดูดุดั่งสัตว์ที่พร้อมจะล่าเหยื่อ ด้วยแสงของหลอด LED ที่มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 5,500 เคลวิน จะให้สีสันที่เหมือนกับแสงอาทิตย์ทำให้มีความชัดเจนเมื่อวิ่งอยู่บนท้องถนนพร้อมกับไม่ทำให้แสบตาด้วย หลอด LED ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ตลอดอายุการใช้งานของรถทั้งยังใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Cr. Image • http://www.autoguide.com/

ช่องดักลมขนาดใหญ่ ที่อยู่ลึกเข้าไปในกันชนหน้ารถและมีความกว้างเท่าตัวรถคือจุดเด่นของ ฮูราคาน ครีบกลางใช้สีเดียวกับตัวถังรถตัดเป็นเส้นแนวนอนผ่ากลาง เช่นเดียวกับรถแข่ง แนวขอบด้านล่างของช่องดักลมนั้นยื่นออกไปด้านหน้าเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวผ่าอากาศ