เตรียมพร้อมก่อนเริ่มวิ่งมาราธอน

BY Duty editor

  • 29 มีนาคม 2560
  • 8,456

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะไปไหนก็เห็นตามงานต่างๆ ออกแคมเปญกิจกรรมวิ่งมาราธอนเต็มไปหมด และก็ยังมีคนมากมายให้ความสนใจกับกิจกรรมเหล่านี้ ตั้งแต่เด็กๆ หนุ่มสาว ไปจนถึงผู้ใหญ่ ก็ออกมาร่วมกิจกรรม ให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น

 

การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ไม่ว่าจะวิ่งเยาะๆ วิ่งจ๊อกกิ้ง วิ่งมาราธอน หรือวิ่งเพื่อวอมอัพร่างกายก็ตามล้วนได้รับความนิยมจากทุกเพศทุกวัยจริงๆ เพราะนอกจากจะใช้อุปกรณ์น้อยแล้ว ยังสามารถทำได้ทุกที่อีกด้วย ไม่ว่าจะวิ่งบนสายพานเครื่องวิ่งในฟิตเนส วิ่งในหมู่บ้าน วิ่งตามสวนสาธารณะ หรือวิ่งตามฟุตบาท ก็มีให้เห็นแทบทุกที่ทุกเวลา

 

 

 

การวิ่งนอกจากจะทำให้เราสุขภาพแข็งแรงแล้วที่รู้ๆ กันอยู่ก็ยังช่วยส่งเสริมร่างกายในด้านต่างๆ อีกด้วย เช่น ช่วยให้ผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เป็นต้น และถ้าเราเกิดอยากจะวิ่งมาราธอนขึ้นมาบ้างหละ เราก็ต้องเตรียมตัวกันก่อน ถ้าอยู่ๆ จะไปวิ่งเลย แบบระยะทางเป็นกิโลเมตรจากได้ประโยชน์ จะกลายเป็นโทษแทนนี้ดิ

 


 

มาเริ่มต้นกันเลยดีกว่า ถ้าเราจะเริ่มต้นจากอะไรก่อนสิ่งแรกที่ควรจะมีเลย คือ แรงจูงใจ ขอแนะนำหน่อยนะ อย่างเช่น อยากจะผอม หรืออะไรก็ตามเหตุผลร้อยแปด หาแรงจูงใจมาให้ได้และอย่ากลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ แต่ให้เราบอกตัวเองเสมอว่า เห้ยเราทำได้แค่นี้เอง

 

 

 

 

เมื่อข้อแรกได้แล้วต่อมาที่จะช่วยกระตุ้นและเตือนเราคือ เพื่อนร่วมอุดมการณ์ อาจจะใช้คำเป็นทางการไปหน่อย แต่อุดมการณ์ในที่นี้ไม่จำเป็นจะต้องอยากลดหุ่นเหมือนกันแต่ อาจจะอยากออกกำลังกายเหมือนกัน เอาเขามาให้ช่วยคอยกระตุ้นเราเวลาเราท้อ และก็สลับกันพอเขาท้อเราก็ช่วยกระตุ้นเขา ว่าอย่าท้อนะ ลุก สู้ๆ หน่อย ประมาณนี้ จะเป็นเพื่อน เป็นแฟน หรือคนในครอบครัวก็ได้

 

 

 

สิ่งต่อไปที่ควรให้ความสนใจไม่แพ้กันคือ กำหนดการ หาเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งมาราธอน แต่หาแบบให้มีเวลาเตรียมตัวหน่อยนะ เราจะได้มีกำหนดเวลาว่าเราจะต้องเข้าร่วมเมื่อไหร่และเราจะใช้เวลาเตรียมตัวนานเท่าไหร่ไม่งั้นเราจะฝึกบ้างไม่ฝึกบ้างโดยไม่มีเป้าหมาย

 

และเมื่อได้กำหนดการแล้ว เราก็ต้องมาเขียนขอบเขตกำหนดเวลาการฝึก ซึ่งตรงนี้เราต้องมีวินัยพอสมควร อาจยืดหยุ่นได้บ้าง เพื่อจะได้ไม่กดดันเกินไปจนทำให้กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเราจนสุดท้ายกลายเป็นความเครียดและไม่อยากฝึกซ้อม

 

 

 

ในหนึ่งอาทิตย์มี 7 วัน วิ่งสัก 3 วัน อีก 2 วัน อาจจะเล่นกีฬาอย่างอื่น เช่น ปั่นจักรยาน ต่อยมวย เต้นแอโรบิค โยคะ ก็ได้ เพื่อจะได้ไม่เบื่อมีความหลากหลาย และเกิดความสนุกสนาน ส่วนอีก 2 วัน ก็ควรให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้าง ส่วนระยะทางก็ค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ อย่าหักโหมจนเกินลิมิตตัวเองไม่งั้นอาจจะบาดเจ็บได้

 

 

 

เราอาจต้องลงทุนกันสักหน่อยเพื่อเลือกรองเท้าที่พอดีและรับกับเท้าของคุณ เพราะเท้าแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เลยต้องลองดูรองเท้าที่ช่วยรับแรงวิ่งและซัพพอร์ตเท้าของคุณจะได้ไม่เกิดการบาดเจ็บ ได้รองเท้าแล้วก็อยากลืมหาชุดที่ระบายเหงื่อได้ดีสัก 2-3 ชุดก็ได้ จะได้ไว้สลับกันไป เอาชุดที่ใส่และวิ่งสะดวกนะ ไม่ใช่เอามาแล้วเกะกะซะเปล่า

 

 

 

พอครบแล้วก่อนจะออกไปวิ่งอีกอย่างหนึ่งอย่าลืมพกนำ้ไปด้วยหละ เวลาวิ่งเหนื่อยๆ ร่างกายกระหายน้ำจะได้ยกขึ้นมาดื่มสักหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นลมไปซะก่อน เพราะอากาศบ้านเรายิ่งเบิร์นได้ดีอยู่

 


 

เมื่อพร้อมแล้วก็เปลี่ยนชุดหยิบรองเท้าคู่ใจและวิ่งเลย แต่ก่อนวิ่งอย่าลืมหาอะไรลองท้องหน่อยก็ดีนะ อย่าเป็นของหนักมาก และก็พอหาอะไรกินเสร็จก็ควรเว้นช่วงให้อาหารได้ย่อยและค่อยออกไปวิ่งไม่งั้นเดี๋ยวจะจุกซะเปล่าๆ อาหารก็ควรหลีกเลี้ยงพวกไขมันอิ่มตัว ควรเลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารวิตามินที่ครบถ้วนและย่อยง่ายก็ดีนะ ส่วนถ้าจะหาอาหารเสริมเป็นตัวช่วยด้วยก็ลองศึกษาดีๆ ก่อนซื้อมารับประทานหละ ออ อย่าลืมวอร์มร่างกายทุกครั้งทั้งก่อนและหลังวิ่งหละ พร้อมแล้วลุยเลย !!!

 

 

ข้อมูลจาก : HERBALIFE