7 ขั้นตอนก่อนรวย

BY Poy T.

  • 29 สิงหาคม 2561
  • 2,543

ทุกวันนี้การรวยและการประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นเรียกได้ว่าน่าจะเป็นเป้าหมายของใครหลายคนกันเลยทีเดียว แต่การจะรวยมันกลับไม่ได้ทำได้ง่ายอย่างที่คิดเพราะต้องมุ่งมั่น ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย จนบางทีก็ทำให้เกิดความท้อแท้กันขึ้นมาได้

หรือถ้าโชคร้ายก็อาจะรวยขึ้นมาแล้วแต่ไม่สามารถรักษาความรวยนั้นไว้ได้ แล้วเราจะมีวิธีไหนที่จะก้าวไปสู่ความรวยและรักษามันไว้ให้อยู่กับคุณนาน ๆ ได้บ้าง? นี่น่าจะเป็นคำถามของหลายคนในตอนนี้


วันนี้ MetroSociety เลยจะขออนุญาตมาแนะนำเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมไปถึงข้อคิดต่าง ๆ ในการเอาตัวรอดปลิดภัยและพร้อมที่จะพุ่งไปหาความรวยกันดีกว่า เพราะเมื่อเราได้เรียนรู้กับเคล็ดลับก่อนไปถึงขั้นของความสำเร็จแล้วนั้นเราก็เข้าใจและสามารถรักษาสิ่งที่เราค่อย ๆ สร้างมาจนกลายเป็นความสำเร็จได้อย่างแท้จริงนั่นเอง

 

1.ต้องมีเป้าหมาย
การมีเป้าหมายในการทำทุกสิ่งทุกอย่างนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับชีวิตของเราเป็นอย่างมากเพราะมันจะทำให้คุณเข้าใจได้ว่าควรเลือกทางไหนในการพุ่งไปสู่เป้ามาย คุณอาจจะเริ่มแค่กับเรื่องง่าย ๆ อย่างการเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวในวันหยุด แม้ว่าอาจจะฟังดูไม่เกี่ยวกับความสำเร็จหรือความรวยเท่าไรนักแต่เชื่อเถอะว่ามันคือการสอนตัวเองให้ได้เรียนรู้กับการวางเป้าหมายและประสบความสำเร็จ

 

 

หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ขยับเพิ่มระดับความยากของเป้าหมายไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายวันหนึ่งคุณก็จะเริ่มชินกับการกำหนดเป้าหมายและพุ่งไปทำให้สำเร็จ เมื่อพยายามนำมาปรับใช้กับทุกเรื่องในชีวิตก็รับรองได้ว่าความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลคุณอย่างแน่นอน


แต่ที่สำคัญคุณต้องคิดแล้วทำด้วย ไม่ใช่เพียงแค่คิดแล้วก็คิดต่อไปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนอกจากความจริงจัง มุ่งมั่น ในการพุ่งไปสู่เป้าหมายแล้วนั้นในบางครั้งเมื่อเกิดข้อผิดพลาดคุณต้องรู้จักกับการให้อภัยตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง แล้วลุกขึ้นสู้เพื่อไปต่อกัน ห้ามมัวแต่มองในข้อผิดพลาดจนลืมไปว่ายังมีอะไรข้างหน้ารอให้คุณไปมีความสุขกับมันอีกมากมาย

 

 

 

2. อย่าลืม! จัดลำดับความสำคัญ
ในชีวิตของคุณไม่น่าจะมีแค่เรื่องหรือสองเรื่องเท่านั้นที่ต้องทำแต่ในความเป็นจริงแล้วในบางครั้งเพียงแค่ใน 1 วัน คุณกลับมีเรื่องต้องจัดการและสะสางให้เรียบร้อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องาน ชีวิตส่วนตัว การวางแผน การให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว การเข้าสังคม และอื่น ๆ อีกมากมาย จนบางทีคุณก็อาจรู้สึกว่าชีวิตวุ่นวายไปหมดและเหนื่อยกับชีวิตมากเหลือเกิน

 


 

ถ้าเป็นแบบนั้นขอแนะนำให้คุณเริ่มจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำก่อนเพราะการจัดลำดับความสำคัญได้นั้นน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดการชีวิตของคุณให้มันง่ายขึ้น  พอได้เริ่มจัดลำดับความสำคัญแล้วคุณก็จะเริ่มมองเห็นโอกาสในการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือจำเป็นน้อยกว่าออกไปได้ เพื่อให้สิ่งหลัก ๆ นั้นสามารถดำเนินต่อไปในแบบที่คุณต้องการ

แน่นอนว่าในบางครั้งมันก็คือการเสียโอกาสหรือเสียบางอย่างไปบ้าง แต่ให้คุณเตือนตัวเองเอาไว้ว่าคุณไม่สามารถมีหรือได้ทุกอย่างที่ใจต้องการตลอดเวลา ให้คุณยึดหลักของเหตุผลมาก่อนเสมอไม่ใช่การใช้อารมณ์ในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว และรอดูผลลัพธ์จากการใช้เหตุผลอย่างมีสติและคิดอย่างรอบคอบสิ่งเหล่านี้ยินดีจะพาคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน

 

3. ทุกอย่างต้องมีกำหนดเวลา
ไม่ว่าคุณจะเริ่มกำหนดเป้าหมายไปเรียบร้อยและชัดเจนแล้ว หรือ จะจัดการในเรื่องของการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ มาดีขนาดไหนแล้วแต่คุณก็ยังจะพลาดอยู่ดีเพราะถ้าคุณลืมที่จะกำหนดเวลาเส้นตายของแต่ละอย่าง

 

 

เพราะ ในเมื่อตัวคุณเองมีข้อจำกัดแค่วันละ 24 ชั่วโมง ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้พื้นฐานและสามารถประเมินเวลาในการทำ ในการคิด ในการอยู่กับแต่ละอย่างในชีวิตของคุณให้ดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดออกมา เช่น ถ้าคุณมีเป้าหมายว่าต้องออกกำลังกายทุกวัน  โดยจัดลำดับความสำคัญแล้วคุณจะเริ่มออกกำลังกายหลังจากที่เสร็จงานทุกอย่าง คุณก็ควรกำหนดเวลาด้วยว่าจะออกกำลังกายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เหลือเวลาในการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป เป็นต้น


ซึ่งเมื่อทุกอย่างในชีวิตของคุณมีเป้าหมาย จัดความสำคัญและมีเวลาของมันแล้วทุกอย่างจะเริ่มวนกลับมาช่วยคุณให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีระเบียบแบบแผนมากขึ้น นี่คือขั้นตอนของการเอาตัวรอดและฝึกระเบียบสู่ความรวยในอนาคตเลยทีเดียว

 

 

4. คิดแล้วต้องลงมือทำ
อย่างที่ได้แนะนำกันไปแล้วข้างบนว่าถ้าคิดแล้วต้องทำไม่ใช่แค่คิดแล้วก็ยังคงคิดต่อไปเพราะแน่นอนเลยว่าผลลัพธ์ของการคิดเพียงอย่างเดียวนั้นมันไม่สามารถทำให้อะไรเกิดขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

ในส่วนของการลงมือทำนั้นก็ถือว่าเป็นช่วงที่สำคัญมากเพราะคุณจะได้รับการเรียนรู้จากการกระทำของคุณทุกอย่างทั้งผลลัพธ์ที่ออกมาสมหวัง ผิดหวัง แน่นอนเลยว่ามันย่อมมีผลลัพธ์ที่หลากหลายให้คุณต้องเจอ

 

 

และแม้ว่าสุดท้ายในบางครั้งมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวังแต่เชื่อได้เลยว่าอะไรที่เกิดขึ้นแล้วคือสิ่งที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน เพราะในวันที่คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จแล้วมองย้อนกลับมาคุณจะเข้าใจว่าการที่คุณสามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะว่าความผิดพลาดในวันนั้นได้สอนคุณเอาไว้นั่นเอง คนที่ผิดพลาดคือคนที่เคยทำ ส่วนคนที่ไม่เคยผิดพลาดคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย อย่ากลัวที่จะผิดพลาดถ้าคุณมั่นใจแล้วว่าคุณตั้งใจทำสิ่งเหล่านั้นอย่างดีที่สุดแล้ว





5. สำเร็จหรือไม่ต้องดูจากการวัดผลได้
ทุกอย่างที่คุณทำขอให้ส่วนใหญ่สามารถที่จะวัดผลได้ไม่ว่าจะเป็นทางนามธรรมหรือรูปธรรมก็ตามเพราะมันคือสิ่งที่จะทำให้คุณรู้คุณเดินทางมาถึงขั้นไหนแล้วนั่นเองแล้วมันจะสามารถบอกคุณได้อีกด้วยว่าคุณควรทำอะไรต่อไป

 

 

อย่างถ้าคุณวางแผนเก็บเงินและทำได้ตามเป้าหมายของการเก็บเงินแล้วนั้น ขั้นต่อไปคุณก็จะเริ่มรู้ว่าจะนำเงินจำนวนที่ได้มาไปต่อยอดทางไหนได้บ้างนั่นเองการที่คุณสามารถเก็บเงินได้ตามเป้าหมายก็ถือว่าคุณประสบความสำเร็จออกมาให้เห็นกันได้ในแบบรูปธรรม ส่วนแบบนามธรรมคุณลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วถามตัวเองสิว่าพอทำสำเร็จแล้วคุณรู้สึกอย่างไรตัวคุณเองนั่นแหละที่จะสามารถตอบความสำเร็จในส่วนนี้ได้ด้วยตัวเอง

 

 

6.เข้าหากลุ่มคนที่มีแนวทางหรือแนวคิดคล้ายกัน
ในข้อนี้ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้สนับสนุนให้คุณคบหรือเข้าหาเฉพาะคนที่เหมือนคุณเท่านั้น คนที่ต่างกับคุณก็คือคนที่คุณควรเข้าไปหาเช่นเดียวกัน สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ถ้าคิดในแง่บวกไว้เพียงแค่คุณมีโอกาสได้ฟังความคิดที่แตกต่างนั่นก็เหมือนคุณได้กำไรจากอีกมุมหนึ่งโดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเองด้วยซ้ำ

 

 

แต่ที่จะมาแนะนำกันในข้อนี้ก็เพื่อให้คุณเข้าหากลุ่มคนที่มีเป้าหมายและความคิดคล้าย ๆ กันเพื่อเป็นการต่อยอดและการเป็นการเอาตัวรอดในสังคมที่คุณต้องการจะอยู่เพียงเท่านั้นเอง เพราะเมื่อคุณมีโอกาสได้เจอกับคนที่คิดเห็นในแนวทางเดียวกันแล้วนั้น ก็จะสามารถช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ทั้งในเรื่องของความคิด ความน่าเชื่อถือ และเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดี ถ้าให้พูดไปแบบนี้เรื่อย ๆ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ยากต่อการเข้าใจ

 

เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากเป็นนักเขียน แต่คุณไม่เคยอ่านหนังสือ ไม่เคยลองไปศึกษางานเขียนคนอื่น ไม่เคยลองพูดคุยกับเพื่อนนักเขียนในแวดวงเดียวกัน แถมยังไม่เคยมีแรงบันดาลใจดีๆ กับผลงานของนักเขียนรุ่นพี่คนใดเลย นี่ก็น่าจะเป็นเรื่องยากที่คุณจะก้าวไปสู่ความสำเร็จด้านงานเขียนได้ในอนาคต ดังนั้นการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดที่อยากเป็น ที่ที่อยากอยู่ ก็ถือเป็นการแสดงจุดยืนและเป็นการตอกย้ำความคิดของตัวเองให้แน่นอนอีกทางหนึ่งว่านี่คือสิ่งที่คุณเลือกและต้องการอย่างแท้จริงแล้วหรือไม่นั่นเอง

 

 

7. การวางแผนการเงินอย่างชัดเจนนี่แหละกุญแจ
ในเมื่อเราพูดถึงการเอาตัวรอดมาข้างบนหมดแล้วสุดท้ายก็คงต้องมาพูดถึงวิธีของการก้าวสู่ความรวยเป็นการส่งท้ายแล้วกัน ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าความรวยนั้นไม่ใช่แค่การหาเงินได้จำนวนมากเท่านั้นแต่ยังสัมพันธ์กับการวางแผนในเรื่องของการใช้จ่ายและการเก็บออมกันอย่างถูกวิธีและเป็นสัดเป็นส่วนอีกด้วย

 

 

เพราะไม่ว่าคุณจะสามารถหาเงินได้เยอะขนาดไหนแต่คุณลืมที่จะหาวิธีเก็บออมรวมไปถึงลืมมองไปถึงความผัวผวนของเศรษฐกิจในวันข้างหน้าด้วยแล้วนั้นสิ่งเหล่านี้ที่เป็นผลพวงมาจากการลืมมันอาจจะกลายมาเป็นปัญหาและมอบความผิดหวังให้คุณในอนาคตได้อีกด้วย

ยกตัวอย่างเทคนิคเก็บเงินก่อนใช้ (คุณสามารถศึกษาวิธีการออมเงินเพิ่มเติมได้ที่ http://www.metro-society.com/th/leisure/savig-money-for-salaryman) วิธีนี้ยกให้เป็นวิธีพื้นฐานของการเก็บออมกันเลยดีกว่า เพียงแต่ต้องใช้ความอดทน การมีระเบียบกับตัวเองและการหักห้ามใจในระดับหนึ่ง

คุณลองแบ่งเงินออมเป็น 10% ของรายรับของคุณ ส่วนที่เหลืออีก 90% นั้นก็แบ่งสัดส่วนให้ชัดเจนว่าจะแบ่งให้ในแต่ละส่วนสามารถใช้ได้กี่เปอร์เซ็นบ้าง ตัวอย่างของค่าใช้จ่ายที่เราจะยกมาเป็นตัวแบ่งก็เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเช่าบ้าน ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ หรือค่าเดินทาง ค่าประกันภัย ค่าประกันชีวิต ค่าโทรศัพท์ รวมไปถึงค่าอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เป็นต้น เมื่อได้รายการตามไลฟ์สไตล์ของคุณออกมาแล้วก็เริ่มวางแผนและจัดการให้มันเป็นสัดเป็นส่วนซะงานนี้ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งเห็นผลเร็ว คอนเฟิร์มได้เลย

 

 

สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะรอดหรือจะร่วงถ้าเป้าหมายในใจและความมุ่งมั่นของคุณชัดเจนเคล็ดลับต่างๆ ที่ยกมาฝากก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจคุณให้มุ่งมั่น ตั้งใจต่อไปได้ เพราะในบางครั้งทุกอย่างมันก็ไม่ได้ง่ายกันอย่างที่คิดแต่ในเมื่อเราเกิดมาเพื่อต้องใช้ชีวิตมันคงไม่เสียหายที่เราจะใช้ชีวิตเพื่อเรียนรู้ อดทนกับอุปสรรค แล้วไปเจอกับความสำเร็จที่ปลายทางกัน