LOUIS VUITTON

คอลเลคชั่นก่อนฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ในปีนี้นั้น ผู้ชายของหลุยส์ วิตตองได้เดินทางข้ามจากยุโรปมาสู่กรุงปารีส เช่นเดียวกับเหล่าศิลปิน นักเขียน และนักคิดสร้างสรรค์ท่านอื่นๆ ในยุค ‘60s และ ‘70s เป็นนักเดินทางที่มีความหรูหรา เคยผ่านประสบการณ์การล่องเรือในแม่น้ำดานูบและเล่นสกีที่เทือกเขาแอลป์สมาแล้ว ก่อนที่จะเดินทางมาปารีสเพื่อชมการแสดงบัลเล่ต์ของนูเรเยฟ

 

ธีมของคอลเลคชั่นนี้แบ่งได้เป็นสองกลุ่มหลัก ในกลุ่มแรกส่วนหนึ่งเป็นคอลเลคชั่นที่มีอยู่ในทุกซีซั่น ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

ในกลุ่มนี้ โทนสีจะเหมือนกับคอลเลคชั่นสปริง – ซัมเมอร์ และมีกราฟฟิคที่คล้ายคลึงกัน เช่นลายชนเผ่าลาหู่ (Lahu) ที่นำมาปรับให้เป็นลายตารางแบบยุโรปตะวันออก ซิลูเอทมีความผ่อนคลายและสบาย สามารถสวมเสื้อหรือเครื่องประดับอื่นๆ ทับได้ง่าย

 

 

เสื้อผ้ากลุ่มแรกเน้นเสื้อผ้าที่หรูหราและมีกลิ่นอายสไตล์ทหาร โทนสีที่ใช้ซึ่งเป็นสีสันเข้มขรึม แต่ไม่ถึงกับทึมทึบ บ่งบอกให้เห็นถึงแรงบันดาลใจจากยุโรป และยังมีการใช้ลายพรางมาเป็นลายหลัก นำมาพิมพ์บนเสื้อคลุม เสื้อไหมพรม และนำมาบุทับผ้าเนื้อบางเบาชิ้นอื่นๆ สำหรับการสวมทับ

 

ส่วนกลุ่มที่สองนั้นมีความหนาและให้ความอบอุ่น เน้นกราฟฟิคที่เป็นเส้นสายของลายผ้าห่มคาราโครัม (Karakoram) และจีฟวานา (Jeevana) จากของดั้งเดิมในอาร์ไคฟ์ของทางแบรนด์ เป็นเสื้อผ้าเท่ๆ สำหรับวันสบายๆ เช่น ผ้าแคชเมียร์ ผ้าหนาและใช้ได้ทั้งสองด้าน ผ้าแจ็กการ์ด ที่ให้ความรู้สึกหรูหราแบบชาวปาริเซียง

 

 

ในซีซั่นนี้ ลายพรางเป็นลายที่มีความสำคัญ เห็นได้ในเสื้อผ้าเรดี้ ทู แวร์ และเครื่องหนัง นำมาพิมพ์ลงบน ดามิเยร์ กราไฟต์ (Damier Graphite) เพื่อให้ความรู้สึกแปลกใหม่แต่ยังคลาสสิคแบบหลุยส์ วิตตอง

 

อีกหนึ่งกราฟฟิคที่มีความโดดเด่นก็คือลายที่มาจากดีไซน์ผ้าห่มที่เป็นของเดิมในอาร์ไคฟ์ของแบรนด์ นำมารังสรรค์ถักทอเป็นทั้งเสื้อโค้ทแคชเมียร์ที่ใช้ได้สองด้าน เสื้อเชิ้ตแจ็กการ์ด และผ้านิ้ต หรือแม้กระทั่งทำเป็นแพ็ทช์เวิร์กเพื่อไปประดับบนเครื่องหนัง

 

เสื้อผ้าแนวสูทก็มีความหลากหลายขึ้นในคอลเลคชั่นนี้ มีเนื้อผ้าหลายแบบ ทั้งผ้าเจอร์ซีย์เนื้อนุ่ม พีโค้ทกันน้ำ และโค้ทสไตล์สลิมฟิตทรงคลาสสิค นอกจากนี้ยังมีทรงที่สบายขึ้นกว่าเดิมและปกเสื้อที่มีให้เลือกมากขึ้นด้วย

 

หนังก็เป็นวัสดุสำคัญอีกอย่างหนึ่ง มีการใช้หนังหลายแบบ เช่น นูบัคเนื้อนุ่ม หนังกวาง ขนแกะ เพื่อรังสรรค์สไตล์ที่คลาสสิคและเหนือกาลเวลา เน้นทรงที่เบาและการประกอบที่ทันสมัย เช่นใช้เทคนิคบอนดิ้ง หรือการใช้ขนแกะชั้นเดียวเพื่อให้ความรู้สึกเบาและใช้งานได้สะดวกขึ้น