TOM FORD #AW20

• Autumn/Winter 2020

BY Ghostwriter

  • 14 กรกฏาคม 2563
  • 7,349

ในทุก ๆ คอลเลคชั่นแผนก PR มักจะขอร้องให้ผมเขียนคอลเลคชั่นโน๊ตให้เสมอ ผมไม่ชอบทำและคิดเสมอว่าคอลเลคชั่นโน๊ตก็เปรียบเสมือนการทำลิสต์รายการซิลลูเอทต่าง ๆ ของเสื้อผ้าที่จะปรากฎอยู่ในคอลเลคชั่นอย่างสีสัน เนื้อผ้า และรายละเอียดต่าง ๆ ที่ทำให้คอลเลคชั่นเกิดขึ้น

 

เพราะถึงแม้ว่ารายละเอียดต่าง ๆ เหล่านั้นจะสำคัญแต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ความหมายของคอลเลคชั่น สิ่งที่สำคัญสำหรับผมมาตลอดก็คือ ‘ทัศนคติ’ ของแต่ละซีซั่น ‘อารมณ์’ และ ‘ลักษณะ’ ของเหล่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหมดนี้คือคำจำกัดความของช่วงเวลานั้น ๆ

 

คอลเลคชั่นนี้มีภาพถ่ายรูปหนึ่งซึ่งเป็นแรงบันดาลใจแรกที่ถูกติดไว้บนผนังที่เต็มไปด้วยรูปภาพมากมายที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผม และแปลกมากที่รูปนั้นยังคงถูกแปะอยู่บนผนังจนถึงช่วงที่ผมกำลังทำชุดสุดท้ายสำหรับคอลเลคชั่นนี้

 

Photo: Courtesy of TOM FORD

 

รูปนี้เป็นรูปที่ผมชอบมากเป็นพิเศษมันคือภาพถ่ายของ Baron Alexis De Waldner และ Donna Mitchell โดย Bob Richardson ในปี 1996 สำหรับนิตยสาร Vogue ประเทศฝรั่งเศส เป็นภาพที่ Alexis กำลังถือบุหรี่ให้ Donna ในขณะที่ Donna นั้นหลับตาในท่วงท่าที่ผ่อนคลายและน่าหลงใหล ผมชื่นชอบรูปนี้มากเพราะมันสื่ออารมณ์ผ่อนคลายและเย้ายวน Bob Richardson อาศัยอยู่ในลอสแอนเจลิสในช่วงหนึ่งของชีวิตแต่ผมไม่แน่ใจว่ารูปนี้ถูกถ่ายที่ไหน สำหรับผมภาพนี้สามารถสื่อถึงความรู้สึกสำหรับคอลเลคชั่นนี้ได้ดีและผมมองว่ามันสื่อถึงความเป็นลอสแอนเจลิสได้อย่างดีเยี่ยม   

 

 

ในฐานะที่ผมเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์ ผมได้เรียนรู้จากปีสู่ปีว่าเราไม่สามารถยัดเยียดหรือตั้งมาตรฐานของความงามเองได้ แต่ความงามจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ตามสิ่งที่แท้จริงและการสื่อสารที่ชัดเจนถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกไปนั้นสำคัญที่สุด

 

Photo: Courtesy of TOM FORD

 

นี่คือสิ่งที่คงไว้ได้ยากเมื่อแต่ละทศวรรษผ่านไปแต่มันคือหัวใจสำคัญของการออกแบบ ถึงแม้ว่าในบางซีซั่น (หรือปี) เสื้อผ้าที่ผู้คนชื่นชอบและเป็นที่นิยมจะไม่ได้ปรากฏอยู่บนนิตยสาร Vogue ก็ตาม ผลงานของดีไซน์เนอร์จะต้องสะท้อนตัวตนของดีไซน์เนอร์ บางครั้งผลงานของผมก็อาจจะดูเซ็กซี่มากจนเกินไปแต่ผมรู้สึกว่ามันถูกต้องสำหรับช่วงเวลานั้นหรือบางครั้งผมก็ออกแบบเสื้อผ้าที่มีความเซ็กซี่น้อยลง

 

ปัจจุบันผมคิดว่าผลงานการออกแบบของผมมักสื่อถึงอารมณ์ความน่าหลงใหลมากกว่าความเซ็กซี่ ซึ่งเป็นผลมาจากกาลเวลาที่ผ่านไปและอายุของผมด้วย อย่างเช่นเมื่อก่อนที่การออกแบบไหล่ของเสื้อแจ็กเก็ตเคยกว้างปัจจุบันก็แคบลง แบบของรองเท้าส้นสูงได้แปรเปลี่ยนไปมาระหว่างส้นเข็มและส้นตึก หลักการและหัวใจสำคัญของการออกแบบของผมนั้นไม่เคยเปลี่ยนไปมันคือการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่สามารถดึงเอาความงดงามของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่ได้สวมใส่ออกมาได้อย่างดีที่สุด

 

ผมได้รับคำถามบ่อยมากว่าทำไมเสื้อผ้าของผมถึงทำให้คนที่ได้ใส่นั้นดูเซ็กซี่เสมอ ความจริงก็คือจุดเริ่มต้นกระบวนการออกแบบของผมไม่ได้เริ่มต้นมาจากการคิดมาก่อนว่าเสื้อผ้าจะออกมาในสไตล์แบบไหน แต่ผมมีความหลงใหลในสรีระร่างกายและมักคิดอยู่เสมอว่าร่างกายของมนุษย์นั้นสวยงามมาก และเมื่อผมออกแบบเสื้อผ้าเสร็จ เสื้อผ้าของผมมักจะถูกออกแบบมาให้เน้นและส่งเสริมร่างกายหรือสัดส่วนของมนุษย์ให้ดูเย้ายวนไปโดยธรรมชาติ ซึ่งผมก็คิดว่ามันเซ็กซี่

 

Photo: Courtesy of TOM FORD

 

ปัจจัยอย่างกาลเวลาและยุคสมัยที่เหล่าดีไซน์เนอร์เติบโตขึ้นมาเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิผลต่อรสนิยมทางความงามและการออกแบบชิ้นงานของดีไซน์เนอร์ ผลงานของผมจะมีกลิ่นอายของยุค 70 เสมอเหมือนกับในคอลเลคชั่นนี้หรือในบางคอลเลคชั่นก็เป็นเพียงร่องรอยของยุค 70 และในหลายครั้งก็เป็นการออกแบบที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากยุค 70 ที่มีความหรูหรา เรียบหรู

 

ผมคิดว่าเหล่าดีไซน์เนอร์ล้วนได้รับอิทธิผลอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะส่งผลต่องานดีไซน์ของพวกเขา แรงบันดาลใจต่าง ๆ นั้นถูกนำมาเล่าเรื่องใหม่แต่ในแบบที่สดใหม่กว่าเดิม ซึ่งนั่นทำให้มันแตกต่างและทำให้วงการแฟชั่นค่อย ๆ พัฒนาไป ดีไซน์เนอร์ที่ผมชื่นชมตอนยุคช่วงยุค 40 ซึ่งสไตล์ในยุค 40 นั้นเป็นพื้นฐานของความงามในช่วงต้นยุค 70 ดีไซน์เนอร์เหล่านั้นก็ได้นำเอาความงามเหล่านั้นมาเล่าใหม่เป็นเหมือนความสวยงามที่น่าประทับใจ ดังเช่นเพื่อนของผม Karl Lagerfeld เคยกล่าวเอาไว้ว่า ‘แฟชั่นก็เหมือนดนตรีที่ตัวโน็ตนั้นจะยังคงเหมือนเดิมเสมอแต่การแต่งและเรียบเรียงเท่านั้นที่จะเปลี่ยนไป’

 

และนี่คือข้อความสำหรับคอลเลคชั่นนี้ หรือที่ผมจะเรียกว่า ‘laundry list’ ของซิลลูเอทเสื้อผ้าในซีซั่นนี้ เสื้อผ้าที่ดูรุ่มร่ามจะถูกดีไซน์ให้เรียบง่ายขึ้น โดยจะจับคู่กับเสื้อสเวตเตอร์หรือเสื้อยืด ทรงของกางเกงจะใหญ่ขึ้นและนุ่มนวลขึ้น ส้นของรองเท้าส้นสูงจะหนาและเป็นรูปทรงที่ออกแบบมาให้เหมือนประติมากรรม รองเท้าแพลตฟอร์มช่วยเสริมให้รูปร่างของสุภาพบุรุษดูสูงยาวขึ้น เสื้อแจ็คเก็ตจะถูกออกแบบให้ทรงเล็กลงหรือจะเรียกได้ว่าหดลง ในทางกลับกันเสื้อโค้ตจะทรงใหญ่และยาวขึ้น ทุกอย่างจะถูกออกแบบมาเพื่อเล่นกับวอลลุ่ม กางเกงยีนส์ถูกนำมาทำใหม่โดยการตัดและนำมาประกอบใหม่

 

 

โดยการตีความกางเกงยีนส์ใหม่ให้เป็นกลายเป็นแฟชั่นไอเทมไม่ใช่แค่กางเกงยีนส์ธรรมดา ลุคแบบทหารถูกนำมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่ในสีเขียว Khaki และ Loden รวมไปถึงการนำผ้าลายคลาสสิค ‘Prince of Wales’ มาตัดเป็นกระโปรง กางเกงและเสื้อแจ็คเก็ต โดยการตัดให้ชายกระโปรงและเสื้อเป็นแบบอสมมาตร  กางเกงวิ่งและกางเกงวอร์มมาช่วยเสริมให้ลุคคลาสสิคของสุภาพบุรุษให้ดูโมเดิร์นขึ้นและได้กลายเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ต้องมีติดตู้เสื้อผ้า ลุคที่ดูเท่และในขณะเดียวกันก็ยังดู Effortless แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทัศนคติ: ผ่อนคลาย เย้ายวนและหรูหราที่พอได้สวมใส่แล้วต้องไม่เหมือนกับว่าคุณพยายามแต่งตัวมากจนเกินไป

 

ชุดกลางคืนสำหรับผมยังคงสไตล์คลาสสิคเอาไว้ ผมชอบออกแบบชุดกลางคืน ในตู้เสื้อผ้าของผมมีชุดกลางคืนมากกว่าชุดกลางวัน ผมรักสไตล์คลาสสิคมากและสำหรับผมชุดสูท ‘Black Tie’ คือ ‘Black Tie’ ไม่ใช่ชุดอื่นและและไม่สามารถเปลี่ยนได้ ผมรู้สึกว่าคอลเลคชั่นนี้มีความโรแมนติกมากเป็นพิเศษอาจจะเพราะว่าลุคสุดท้ายในโชว์ของผมคือชุดเจ้าสาว ที่ทั้งให้ความรู้สึกที่ดูสดชื่น ใหม่และเต็มไปด้วยความหวัง และความหวังคือสิ่งที่ผมคิอว่าเราทุกคนต้องการในเวลานี้