LOUIS VUITTON • Fall-Winter 2025

BY METROSOCIETY

  • 30 กันยายน 2568
  • 1,170

คอลเลคชั่นผู้ชาย Louis Vuitton Fall-Winter 2025 ภายใต้ชื่อ Remember the Future คือบทสนทนาที่ผสมผสานอดีตกับอนาคตอย่างลงตัว ผลงานการร่วมงานระหว่าง Pharrell Williams และ NIGO ที่ไม่ใช่แค่การทำงานร่วมกัน แต่คือการฉลองมิตรภาพตลอดชีวิต ผ่านเสื้อผ้าที่สืบทอดทั้งรากวัฒนธรรมสตรีทและความหรูหราในแบบ Louis Vuitton

 

 

ทั้งสองถูกเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่ปี 2003 กับการก่อตั้ง Billionaire Boys Club และ ICECREAM ก่อนจะร่วมกันออกแบบแว่นตา LV Millionaires 1.0 ในปี 2004 นับแต่นั้น ชื่อของ Pharrell และ NIGO ก็กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของวงการสตรีทแฟชั่น ปัจจุบัน Pharrell ดำรงตำแหน่ง Men’s Creative Director ของ Louis Vuitton ส่วน NIGO คือผู้ก่อตั้ง A Bathing Ape และ Artistic Director ของ Kenzo มิตรภาพและเส้นทางที่เชื่อมโยงกันนี้ถูกเล่าออกมาอย่างชัดเจนในคอลเลคชั่นล่าสุด

 

 

เอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นอยู่ที่การหลอมรวมความดิบของ streetwear เข้ากับความเนี้ยบแบบ dandyism เสื้อผ้าสไตล์เวิร์กแวร์ ตั้งแต่วิศวกร เชฟ ไปจนถึงช่างสวน ถูกยกระดับด้วยวัสดุพรีเมียม สูทที่ดูเคร่งครัดถูกทำให้ผ่อนคลายด้วยการปรับโครงสร้าง กางเกงหนังทรงครอป และแจ็คเก็ตหนังที่แฝงกลิ่นอายญี่ปุ่น ความ rockabilly และ mod culture ยังถูกนำกลับมาเล่นใหม่ในรายละเอียดเล็กๆ สะท้อนถึงซับคัลเจอร์ที่ทั้ง Pharrell และ NIGO เติบโตมา

 

ความเป็นญี่ปุ่นปรากฏชัดเจนผ่านเทคนิคดั้งเดิมและลวดลายที่ถูกตีความใหม่ เช่น Dandy Monogram ที่ผสมผสานลายดอกของ Louis Vuitton เข้ากับงานทอ Shippo และการปัก Sashiko บนเดนิม ลาย Damier ได้แรงบันดาลใจจากพิธีชงชา แปรผันเป็น jacquard และงานหนัง ขณะที่ Cherry Blossom Damoflage เติมความอ่อนโยนผ่านสีชมพูซากุระและคริสตัลที่เปล่งประกายเหมือนหยดน้ำค้าง

 

Bags: งานศิลป์ที่บอกเล่ามิตรภาพ

ไฮไลต์ของคอลเลคชั่นอยู่ที่กระเป๋า ซึ่งเล่าเรื่องราวของ Pharrell และ NIGO ได้อย่างลึกซึ้ง ทั้ง Damier Phriendship Bags ที่พิมพ์ใบหน้าของทั้งคู่ลงบนลายตาราง ไปจนถึง Speedy เวอร์ชั่นใหม่ในเฉดสีญี่ปุ่นอย่าง Yuzu Yellow, Sencha Green และ Sakura Pink นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันพิเศษย้อมครามตามภูมิปัญญาญี่ปุ่น และเวอร์ชันทองที่ได้แรงบันดาลใจจากงานซ่อมปั้น Kintsugi แสดงถึงการนำอดีตมาสร้างคุณค่าใหม่ในปัจจุบัน

 

 

Trunks และงานศิลป์จาก Azuma Makoto

หนึ่งในผลงานที่น่าจับตามากที่สุดคือการร่วมงานกับศิลปินดอกไม้ชาวญี่ปุ่น Azuma Makoto ที่สร้าง Flower Trunks จากอะคริลิกใส บรรจุดอกไม้จริงไว้ภายใน กลายเป็นการตีความ “ความเปราะบางที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์” ในสไตล์ Louis Vuitton พร้อมทั้งมีทรังค์สำหรับพิธีชาและสาเกที่แสดงถึงการแลกเปลี่ยนงานฝีมือฝรั่งเศสและญี่ปุ่นอย่างทรงพลัง

 

Footwear และแว่นตา: จากอดีตสู่อนาคต

รองเท้าและแอคเซสซอรีก็ไม่ธรรมดา LV ButterSoft Sneaker หนังนุ่มพิเศษมาพร้อมโลโก้ใบหน้า Pharrell ส่วน LV Bubble และ LV Remix ตีความใหม่จากรองเท้าเวิร์กแวร์และรองเท้าเดินเขา เติมกลิ่นอายสตรีทและ rockabilly ลงไป ขณะที่ LV FROG Sunglasses และการรีดีไซน์ Millionaires 1.0 ในเวอร์ชันใหม่ๆ ย้ำชัดว่า Louis Vuitton กำลังเดินหน้าสู่อนาคตโดยไม่ทิ้งรากฐานของตนเอง

 

เสียงดนตรีแห่งอนาคต

โชว์ครั้งนี้ยิ่งใหญ่ด้วยการแสดงสดที่เปิดด้วยเพลงดังจาก Final Fantasy VII โดย Nobuo Uematsu ก่อนจะเข้าสู่เพลงใหม่ที่ Pharrell โปรดิวซ์ และการร่วมงานกับศิลปินระดับโลกอย่าง SEVENTEEN, The Weeknd, Playboi Carti, Don Toliver และ j-hope ทำให้แฟชั่นโชว์ครั้งนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานแฟชั่น ดนตรี และวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างเต็มรูปแบบ

 

Remember the Future

Louis Vuitton Men’s Fall-Winter 2025 คือมากกว่าคอลเลคชั่นเสื้อผ้า แต่คือการบันทึกมิตรภาพและการสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดนิ่ง Pharrell Williams และ NIGO ทำให้ Louis Vuitton กลายเป็นเวทีที่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตมาบรรจบกันได้อย่างกลมกลืน และที่สำคัญ คือการบอกเล่าเรื่องราวที่ผู้ชายยุคนี้สามารถนำไปตีความเป็นสไตล์ของตัวเองได้จริง