Your life want "Reset Day"

หลายครั้งที่คุณน่าจะแอบบ่นกับตัวเองว่าถ้าชีวิตมีปุ่มให้ Reset เหมือนคอมพ์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ก็คงจะดีเพราะบางทีสิ่งที่ต้องเจอมันก็ชวนให้ต้องเหนื่อยหน่ายอยู่พอสมควร และแม้ว่าชีวิตของคนเราอาจจะไม่ได้มีปุ่มให้กด Reset แบบพวกอุปกรณ์ต่าง ๆ

แต่เราก็มีข่าวดีมาบอกว่าคุณสามารถสร้าง Reset Day ให้เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณกันได้ เพื่อจะได้เป็นการคลีน การเคลีย สิ่งตกค้างในชีวิตออกไป หายใจลึก ๆ แล้วมาเริ่มกันใหม่…มาเริ่ม Reset Your Day ไปพร้อมกับเรากันเลยดีกว่า

 

มาเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า Reset Day คืออะไร?

แม้ว่าคุณจะทำงานหรือมีกิจกรรมต่างๆต่อคิวรอให้คุณไปเจออยู่เป็นหวงว่าวแต่เราเชื่อว่าคุณจะสามารถหาวันว่างๆให้กับตัวเองได้แบบ 100% สักวันและนี่คือข้อแรกที่คุณควรทำให้ได้มันเปรียบเหมือนการหาปุ่มกด Reset ให้เจอแล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็จะค่อยๆเป็นไปตามกระบวนการของมันได้เอง

และหลักของการเลือกวันไหนสักวันเป็นวัน Reset Day ของคุณแล้วล่ะก็ขอให้มันเป็นวันที่จะมีแต่คุณ 24 ชั่วโมงจริง ๆ เพราะถ้าคุณเลือกวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดที่คนอื่น ๆ มีมันอาจทำให้คุณต้องมีภารกิจเกี่ยวข้องทั้ง ไปรับไปส่งแฟนซื้อของ นัดเพื่อนทานข้าว หรือปันใจไปให้กิจกรรมที่จัดพิเศษเฉพาะวันหยุด ดังนั้น วันธรรมดาที่แสนเรียบง่ายสักวันนั่นแหละสิ่งที่ Reset Day ต้องการ

 

 

หาวันว่างพร้อมแล้วมาเริ่ม Reset Day กันเลย

เวลาที่ Reset Day ต้องการจากคุณอย่างน้อยที่สุดคือ 7-8 ชั่วโมง เพื่อที่จะทำในแต่ละขั้นตอนที่เรากำลังจะคุยกันในวันนี้ให้ครบแต่ก็สามารถยืดหยุ่นได้ตามที่คุณต้องการเลยเพราะวันนี้มันเป็น “วันของคุณ”

 

 

1. ทำความสะอาดบ้าน

“โอ้ว! ไม่นะ” นี่อาจจะเป็นคำแรกที่หลุดออกมาจากคุณเมื่อเริ่มอ่านข้อนี้แต่ใจเย็น ๆ ก่อนมันไม่ใช่การทำความสะอาดบ้านหรือห้องของคุณที่ต้องการผลลัพธ์แบบเดิม ๆ เพราะมีแนวคิดจาก Jordan B. Peterson นักจิตวิทยาชื่อดังบอกเอาไว้ว่า การทำความสะอาดบ้าน ห้อง หรือพื้นที่ของคุณนั้นเป็นก้าวแรกของการจัดการชีวิตส่วนอื่น ๆ ให้เหมาะสมตาม และบอกเลยว่าสภาพแวดล้อมที่แสนยุ่งเหยิงไม่ช่วยให้สมองของคุณแล่นได้ดีเท่ากับความมีระบบระเบียบอย่างแน่นอน

สำหรับในวันนี้คุณไม่ต้องทำความสะอาดให้หมดจดชนิดที่ว่าไม่เห็นฝุ่นแต่เราขอแค่ให้คุณจัดภาพรวมให้ออกมาดูมีระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นก็เท่านั้น เช่น ล้างจานที่ค้างอยู่ เก็บโต๊ะ เปลี่ยนผ้าปู กวาดพื้น เอาขยะไปทิ้ง เติมทิชชู่ที่หมด อะไรแค่เพียงพื้นฐานก็เพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มต้น Reset Day

 

 

2. ล้างสมอง

แม้ว่าคำมันอาจจะดูโหดร้ายไปหน่อยแต่ว่ามันมีความจำเป็นที่คุณจะต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้และไม่ได้ในชีวิตไม่ใช่ปล่อยให้ทุกอย่างค้างคาไม่เดินหน้าและไม่ถอยหลังในแบบที่เป็นอยู่ อย่างเช่น ถ้าคุณมีความคิดจะลงทุนในหุ้นแต่กลับทำได้แค่ซื้อหนังสือมาอ่านแล้วค้างอยู่ที่หน้า 32 มา 3 เดือนแล้วนั่นคือสิ่งที่คุณต้องถามตัวเองว่าจะไปต่อให้สุดหรือพอกับมันก่อน

เอาล่ะ! เริ่มจากหากระดาษปากกามาและเขียนสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของคุณลงไปทั้ง งาน การออกกำลังกาย ครอบครัว คนรัก เพื่อน และอะไรก็ตามที่คุณค่อย ๆ เริ่มตกตะกอนว่ามันมีอยู่ในชีวิตคุณ แล้วอะไรที่คุณวางเป้าหมายไว้กับมันบ้าง มีอะไรที่ติดขัด มีแนวทางแก้อย่างไร มันควรพอหรือไปต่อ ค่อย ๆ ใช้เวลากับมันเขียนมันออกมาและยอมรับมันด้วยความจริงใจ และหลังจากที่คุณเขียนมันทั้งหมดลงไปในกระดาษแล้วมันเปรียบเหมือนการถ่ายโอนข้อมูลจากสมองคุณลงมา…อะไรที่เห็นว่ามันควรล้างก็ขีดออกไปได้เลย

 

 

3. มาเริ่มตกลงกับตัวเองใหม่

หลังจากคุณตกตะกอนเพิ่มลดสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตคุณแล้วก็มาเริ่มกำหนดมันให้ชัดเจนเลยว่าคุณจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้มันเกิดขึ้นแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง คุณต้องการลองดัดผมดู ก็สามารถเขียนมันลงไปได้เพื่อสุดท้ายมันจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณทำมันได้สำเร็จนั่นเอง

 

4. สร้างแบบประเมินให้ตัวเอง

มาตั้งผลที่คุณต้องการในแต่ละช่วงของการทำตามเป้าหมายกันเพราะมันมีความสำคัญกับ Reset Day ครั้งต่อไปเป็นอย่างมาก เริ่มง่าย ๆ จากการบันทึกเอาไว้เลยว่าจุดไหนคือจุดที่เป้าหมายของคุณสำเร็จ แล้วคุณจะต้องทำแบบไหน อย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แล้วต้องปรับปรุงนิสัยส่วนไหนไหมเพื่อที่จะให้เป้าหมายนั้นเข้าใกล้ที่คุณต้องการมากยิ่งขึ้น และถ้าคุณสามารถกำหนดระยะเวลาเพื่อกลับมามองตัวเองให้ชัดขึ้นได้ด้วยล่ะก็เราก็อยากให้คุณทำ เช่น คุณตั้งใจจะลดน้ำหนักให้ได้ตามที่ต้องการภายใน 6 เดือน ในช่วงเดือนที่ 3 คุณก็ควรได้กลับมาทบทวนแล้วว่ามีแนวโน้มจะทำได้หรือไม่ ถ้ายังมีจุดบกพร่องก็เตรียมแนวทางแก้ไขเอาไว้นั่นเอง

 

 

5. เริ่มสร้างกิจวัตรใหม่

คุณน่าจะเคยได้ยินมาบ้างว่า คุณไม่สามารถได้อะไรใหม่ ๆ ในเวลาที่คุณยังทำอะไรแบบเดิม ๆ ดังนั้นการปรับแผนชีวิตประจำวันของคุณบางส่วนก็มีผลกับการทำ Reset Day ครั้งนี้ในเมื่อคุณเห็นแล้วว่าคุณต้องการอะไร เราจึงเชื่อว่าคุณจะเห็นช่องว่างที่เป็นอุปสรรคของสิ่งเหล่านั้นเช่นกัน และแน่นอนจดมันลงไปเพื่อที่จะสามารถย้อนกลับมาทวนได้ทุกครั้งที่ต้องการ

 

6. ถึงชั่วโมงแห่งการผ่อนคลาย

เราเชื่อว่าขั้นตอนข้างบนตั้งแต่ 1-5 น่าจะทำให้คุณต้องเรียกพลังงานออกมาไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้น Reset Day ก็ควรมีการพักผ่อนอยู่ภายในแผนด้วย คุณสามารถทำได้หมดเท่าที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็นการไปสปาเพื่อนวดผ่อนคลาย นั่งสมาธิ นอนหลับ ดูหนัง หรืออะไรก็ตามที่คุณเรียกมันว่าการผ่อนคลาย และแน่นอนว่าช่วงพักของ Reset Day จะทำให้คุณตกตะกอนเพิ่มมากขึ้นหลังจากได้พักผ่อน

 

 

การได้ทบทวนตัวเองบ้างบางครั้งเป็นเรื่องที่คนเรามักละเลยและคิดว่าทำเมื่อไรก็ได้แต่สิ่งรอบตัวและความรู้สึกของคุณเองนั้นกลับมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหลายคนต้องเจอกับความเครียดเพราะบางครั้งรู้สึกว่ายังไม่เข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไรหรือต้องทำอะไรการหาวันธรรมดามาสงบและคุยกับตัวเองสักวันน่าจะเป็นเรื่องราวดี ๆ และแน่นอนว่าคุณจะได้รับความสุขจากมันไปเต็มๆแน่นอน
ลองเอาเคล็ดลับ Reset Day ที่เราได้แนะนำกันไปในวันนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณกันได้เลยเพราะมันสามารถยืดหยุ่นและปรับได้ตามที่คุณต้องการแต่อย่าลืมว่าเป้าหมายของมันคือ คุณจะตอบคำถามตัวเองได้ชัดขึ้น เข้าใจและรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมากขึ้นนั่นเอง