Mercedes-Benz • Driving Event 2017

BY Duty editor

  • 24 กุมภาพันธ์ 2560
  • 5,954

ถ้าให้นึกว่าซื้อรถยนต์มากันทีจะมีซักกี่แบรนด์ที่จะทำให้เราได้รู้จักสมรรถนะของรถยนต์ที่เราลงแรงซื้อมากันได้แบบเต็มที่และใช้งานได้ปลอดภัยคุ้มค่ากับนำ้พักน้ำแรงของเราบ้าง

 

 

แบรนด์ที่อยู่กับคนไทยมาช้านาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยที่ใช้ชื่อว่า “Mercedes-Benz Driving Event 2017”  โดยจัดเต็มด้วยขบวนรถหรูกว่า 19 คัน ไม่ว่าจะเป็น The new CLA, The E-Class, The S 500 e, The C-Class Coupé, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, The new SLC 300 AMG Dynamic, Mercedes-AMG SLC 43, The new S 500 Coupé AMG Premium, GLC 250 d 4MATIC Coupé  และ GLE 500 e 4MATIC แทบจะครบทุกเซ็กเมนต์ มาให้ทดสอบสมรรถนะในสนามแข่งจริงอย่าง สนามพีระเซอร์กิต พัทยา

 

 

มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ดำเนินงานภายใต้ปรัชญาที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ซึ่งหนึ่งในพันธกิจที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญ และยึดมั่นเสมอมาคือ  การคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บริษัทฯ จึงได้คิดค้น และพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving) มาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาทักษะการขับขี่” เพื่อให้   ผู้ขับขี่ได้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานระบบความปลอดภัยของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือตนเอง และบุคคลรอบข้าง ในกรณีที่เกิดเหตุคับขัน เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง”

 

 

 

โดยกิจกรรมจัดขึ้นทั้งหมดถึง 12 วัน (ระหว่างวันที่ 16-27 กุมภาพันธ์ 2560) โดยแบ่งผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่มต่างๆ เพื่อเข้าอบรมในแต่ละวัน และดำเนินการฝึกอบรม ซึ่งหลักสูตรการฝึกอบรมในครั้งนี้ จะประกอบด้วยแบบทดสอบลักษณะต่างๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ฐาน ได้แก่

การขับแบบสลาลม (Slalom) ด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (Land Change) พร้อมเรียนรู้อาการของรถและการควบคุมรถอย่างถูกวิธี การเบรกแบบฉุกเฉิน (Emergency Braking) เมื่อพบเจอสิ่งกีดขวางหรือถูกตัดหน้ารถแบบกะทันหัน พร้อมเรียนรู้ระยะทางการหยุดรถแบบปลอดภัยด้วยระดับความเร็วต่างๆ หรือการหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนเปียกลื่น พร้อมเปรียบเทียบอาการเสียการทรงตัว อาหารเข้าโค้งและหลุดโค้ง (Under/Over Steering) เป็นต้น ปิดท้ายด้วยการขับแบบ Hot lap เพื่อให้ทุกท่านได้ทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในสนามอย่างเต็มที่อีกด้วย

 

 

ในครั้งนี้ METRO•SOCIETY ได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรมด้วย ซึ่งถือเป็นการได้รับประสบการณ์จริงเพื่อการฝึกทักษะแต่ละด้านและได้รับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำจากนวัตกรรมด้านความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแนวคิดในการผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น

 

 

ซึ่งเทคโนโลยีที่ทางทีมวิศวกรของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทำการค้นคว้าวิจัยมาโดยเฉพาะความปลอดดภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมการป้องกันได้ตั้งแต่

ก่อนเกิดเหตุ อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention Assist) ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบช่วยเบรก (BAS - Brake Assist) ระบบ LED Intelligent light system   ส่องสว่างอัจฉริยะ

 

 

เทคโนโลยีช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้นโดยป้องกันไม่ให้ล้อการเกิดล็อคตัว   ซึ่งความช่วยเหลือนี้ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป เช่น ในระหว่างการขับขี่หลบหลีกสิ่งกีดขวาง หรือเมื่อเบรกบนพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR) ช่วยลดการหมุนฟรีของล้ออย่างเป็นอิสระ เพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์ลื่นไถลเสียการทรงตัว ระบบ PRE-SAFE® ที่ประสานรวมคุณสมบัติด้านการป้องกันก่อนเกิดเหตุและปกป้องขณะเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกัน ระบบมีความสามารถรับรู้ถึงสถานการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้า และสั่งการให้มาตรการป้องกันเบื้องต้นทำงาน เพื่อป้องกันผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถในกรณีที่อุบัติเหตุกำลังจะเกิดขึ้น มาตรการนี้ประกอบด้วยการทำงานของเข็มขัดนิรภัยรั้งกลับอัตโนมัติ และการเลื่อนปิดกระจกหน้าต่างที่เปิดค้างไว้ทุกบานโดยอัตโนมัติ

 

 

เทคโนโลยีช่วยเหลือขณะเกิดอุบัติเหตุ อย่าง ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และ เซนเซอร์ล่วงหน้า ที่สามารถลดเวลาระหว่างการชนปะทะและการทำงานของเข็มขัดนิรภัยให้สั้นลง ถุงลมนิรภัยสามารถพองตัวขึ้นใน 2 ระดับ โดยเป็นการพองตัวขึ้นล่วงหน้าระดับหนึ่งและสอดคล้องกับสถานการณ์อีกระดับหนึ่ง

 

 

 

เทคโนโลยีช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ  เพื่อลดความเสียหายที่ตามมาหลังเกิดอุบัติเหตุและช่วยเหลือการทำงานของทีมให้ความช่วยเหลือ การทำงานที่แตกต่างกันหลายรูปแบบจะเริ่มต้นทำงานโดยขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของการชนปะทะที่ระบบบันทึกไว้ โดยเทคโนโลยีทั้งหมดถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบความปลอดภัยสูงสุดตลอดการเดินทางให้แก่ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือแม้แต่ผู้ร่วมเดินทางบนท้องถนน

 

 

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ถือเป็นการทำให้ผู้ขับขี่มีความเข้าใจและรู้ว่ารถยนต์ที่เราใช้อยู่นั้นมีเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถอะไรบ้าง และใช้งานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมั่นใจและมีความรอบคอบในสถานะการณ์ต่างๆ ได้ดีมากขึ้น  นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านที่ผ่านการฝึกอบรมฯ จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากทางบริษัทฯ อีกด้วย

 

 


 

 

ใหม่ล่าสุดที่สัมผัสแล้วรู้สึกถึงความเท่ไม่แพ้ใคร กับ The new CLA

 

 

ดีไซน์ภายนอก ที่ได้รับการออกแบบให้มีความผสมผสานกันระหว่างความเร้าใจแบบสปอร์ตและความปราดเปรียว โดยรุ่น CLA 200 Urban มาพร้อมกับกระจังหน้า diamond grille สีดำ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วแบบทูโทน ส่วน CLA 250 AMG Dynamic และ CLA 250 Shooting Brake AMG Dynamic มาพร้อมกับกระจังหน้า diamond grille  สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 18 นิ้ว, ชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง), ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ  เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof) นอกจากนี้ทั้งสามรุ่นยังมาพร้อมกับชุดอุปกรณ์มาตรฐาน อย่าง ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ไฟหน้าแบบ LED High Performance, ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED  ในกรอบไฟหน้า และไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด

 

 

ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย ด้วยดีไซน์ของความแตกต่างที่ผสานกันได้อย่าง ลงตัว โดย CLA 200 Urban ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ส่วน CLA 250 AMG Dynamic และ CLA 250 Shooting Brake AMG Dynamic ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต รวมถึงที่วางแขนสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง นอกจากนี้ทั้งสามรุ่นยังมาพร้อมกับประโยชน์การใช้สอยที่โดดเด่น อย่าง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start), วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Bluetooth), ระบบรองรับการใช้งานระบบนำทาง                               (Pre-installation SD-Card Navigation), ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ   iOS (Apple CarPlay™)

 

 

สำหรับ ห้องโดยสารภายใน ของทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถ พับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการ, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 12 สี เป็นต้น สำหรับ CLA 250 Shooting Brake AMG Dynamic จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐาน, ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติ ซึ่งทำงานในระบบไฟฟ้า สามารถเปิดได้จากปุ่มควบคุมเบาะนั่งผู้ขับขี่, บานประตูท้าย หรือจากกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งพื้นที่เก็บบรรทุกสัมภาระด้านหลังที่มีความจุถึง 495-1,354 ลิตร นับเป็นความจุสูงสุดของรถยนต์หรูในเซ็กเมนต์นี้ ซึ่งพื้นที่นี้สามารถรองรับทุกอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์ทำงานคู่ใจ ซึ่งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับได้เป็นอย่างดี

 

  • CLA 200 Urban ราคา 2,140,000 บาท

โปรแกรม mySTAR Special เสนอสิทธิพิเศษอัตราผ่อนชำระต่อเดือนเพียง 21,400 บาท ( 1% ของราคารถยนต์)

  • CLA 250 AMG Dynamic ราคา 2,490,000 บาท

โปรแกรม mySTAR Special เสนอสิทธิพิเศษอัตราผ่อนชำระต่อเดือนเพียง 24,900 บาท (1% ของราคารถยนต์)

  • CLA 250 Shooting Brake AMG Dynamic ราคา 3,140,000 บาท

โปรแกรม mySTAR Special เสนอสิทธิพิเศษอัตราผ่อนชำระต่อเดือนเพียง 31,400 บาท (1% ของราคารถยนต์)

  


 

หล่อดุกับ The C-Class Coupé

 

ยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้เจนเนอเรชั่นล่าสุดในกลุ่ม Dream Car ที่ประกอบในประเทศไทย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ได้รับการพัฒนาให้มี   ความสปอร์ต ปราดเปรียวยิ่งขึ้นพร้อมการออกแบบและตกแต่งภายในที่ให้ความหรูหรา มีระดับ  ผสานกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในส่วนต่างๆ เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้ทุกการขับขี่รื่นรมย์ และ  เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์สปอร์ตเรียกได้ว่า The C-Class Coupé เจนเนอเรชั่นล่าสุดนี้เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มยนตรกรรมสปอร์ตสองประตูระดับพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง โดยมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน ด้วยกัน  คือ The C 250 Coupé Sport และ The C 250 Coupé AMG Dynamic

 

 

ดีไซน์ภายนอก ของ The C-Class Coupé โฉมใหม่นี้ ดูแข็งแกร่ง โฉบเฉี่ยวและเร้าใจมากยิ่งขึ้น สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการตกแต่งให้ดูเรียบง่ายแต่เคร่งขรึมแฝงด้วยความเร้าใจสไตล์สปอร์ตมากกว่าที่เคย พร้อมเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ, ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ, ระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุ และระบบไฟหน้าปรับอัตโนมัติตามสภาพถนน นอกจากนี้ The C 250 Coupé Sport ยังมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง (Reversing Camera) ในขณะที่ The C 250 Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (360 Degrees Camera), หลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า และระบบเครื่องเสียง Burmester® พร้อมระบบ DSP amplifier แบบรอบทิศทาง พร้อมลำโพง 13 ตัว

 

 

นอกจากนี้ ตัวเด็ด ค่าย Mercedes-AMG อย่าง The new Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นใหม่ที่นำเสนอมาเพื่อเติมเต็มและตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและแรงของเครื่องยนต์สปอร์ตระดับรถแข่งฟอร์มูล่าวันโดยไม่ทิ้งดีไซน์สุดพรีเมี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของ C-Class Coupé เครื่องยนต์ V6 ที่ใช้ในรถรุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่แรงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ประเภทเดียวกันของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกทั้งยังมาพร้อมกับ ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ใหม่ล่าสุดที่มีฟังก์ชั่น Double Declutch ทำให้   ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

 

 

 

  • The C 250 Coupé Sport ราคา  3,240,000 บาท

โปรแกรม mySTAR Special เสนอสิทธิพิเศษอัตราผ่อนชำระต่อเดือนเพียง 32,400 บาท (1% ของราคารถยนต์)

  • The C 250 Coupé AMG Dynamic ราคา  3,590,000 บาท

โปรแกรม mySTAR Special เสนอสิทธิพิเศษอัตราผ่อนชำระต่อเดือนเพียง 35,900 บาท (1% ของราคารถยนต์)

  • The new Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ราคา  5,190,000 บาท