LOEWE Crafted World Tokyo Exhibition
- 28 มีนาคม 2568
-
5,993
Crafted World นิทรรศการใหญ่ของโลเอเว่ ที่ร่วมเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ ซึ่งสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมแห่งสเปน และความมุ่งมั่นในงานฝีมืออย่างลึกซึ้ง เปิดตัวแล้วที่ย่านฮาราจูกุ กรุงโตเกียว
การเดินทางรูปแบบอินเตอร์แอคทีพผ่านกาลเวลา พื้นที่ วัสดุ และเทคนิคในการสร้างสรรค์ที่แฝงไปด้วยความขี้เล่นแบบเฉพาะตัวของ โลเอเว่ โดย Crafted World คือนิทรรศการที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของโลเอเว่ ทั้งในด้านแฟชั่น และวัฒนธรรมงานฝีมือซึ่งได้รับการที่สืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย โดยนิทรรศการนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นนิทรรศการแบบทัศนาจร
โดยเปิดตัวครั้งแรกที่กรุงเซี่ยงไฮ้ในปี 2024 และในเดือนมีนาคม 2025 Crafted World จะเดินทางมาจัดแสดงที่ย่านฮาราจูกุกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศแรกที่โลเอเว่ ได้ขยายกิจการออกนอกทวีปยุโรป ด้วยการเปิดร้านอย่างเป็นทางการภายในห้างนิฮอนบาชิ มิซูโคชิ ในปี 1973 และนับตั้งแต่นั้น โลเอเว่ก็มีบทบาทสําคัญในการสร้างสรรค์ และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับประเทศญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นิทรรศการนี้ได้รับการออกแบบด้วยความร่วมมือจาก OMA สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังผลงานสถาปัตยกรรมอันล้ําสมัยแห่งศตวรรษที่ 21 โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการออกแบบสุดไอคอนิก และผลงานความร่วมมือทางวัฒนธรรมซึ่งมีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนโลเอเว่ จากจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มช่างเครื่องหนังในกรุงมาดริด ในปี 1846 สู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบัน Crafted World ยังพาผู้ชมดำดิ่งเข้าสู่โลกแห่งศิลปะและวัฒนธรรมมากขึ้น ผ่านการนำเสนอประวัติศาสตร์ 179 ปีแห่งความคิดสร้างสรรค์ของ โลเอเว่ รวมถึงนวัตกรรม และความเป็นเลิศในการรังสรรค์สิ่งต่าง ๆ ที่เริ่มต้นจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดหาสินค้าอย่างเป็นทางการให้กับราชวงศ์สเปนในศตวรรษที่ 19 สู่การเปิดร้านสาขาแรกในประเทศญี่ปุ่น และการเข้าซื้อกิจการโดย LVMH ในศตวรรษที่ 20 ไปจนถึงยุคฟื้นตัวของแบรนด์ภายใต้การนำของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์อย่าง โจนาธาน แอนเดอร์สัน
นิทรรศการนี้เป็นการเฉลิมฉลองงานฝีมือและเทคนิคทางศิลปะที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่ และได้รับการสนับสนุนมาเป็นเวลานานจากมูลนิธิ LOEWE Foundation กับงานประกวดประจำปีอย่าง Craft Prize รวมไปถึงโปรเจ็กต์ควาทมร่วมมือของ โลเอเว่ กับช่างฝีมือจากทั่วโลก ซึ่งสะท้อนถึงโดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสนุกสนานในการรังสรรค์ผลงานด้วยมือ นิทรรศการนี้จะพาผู้ชมออกเดินทางสัมผัสเสน่ห์แห่งสเปนผ่านภาพและเสียง ดื่มด่ํากับบรรยากาศของฟรอนต์โรว์บนรันเวย์ในปารีส และดําดิ่งสู่โลกแห่งจินตนาการและการออกแบบที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคอลเล็กชันที่ผ่านมาของโลเอเว่ ผ่านห้องจัดแสดงพร้อมลูกเล่นอินเทอร์แอคทีฟที่หลากหลาย โดยนําเสนอผลงานที่ได้แรงบันดาลใจจาก Studio Ghibli และผลงานจากสตูดิโอเซรามิกของศิลปิน Suna Fujita จากเกียวโตอีกด้วย
Crafted World Tokyo จัดแสดงผลงานที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน รวมถึงงานสถาปัตยกรรมที่ได้รับการบูรณะ และปรับปรุงใหม่อย่างประณีต สะท้อนให้เห็นถึงโปรเจ็กต์ความร่วมมือ และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมต่าง ๆ ของโลเอเว่ที่เกิดขึ้นทั้งในญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ผลงานที่จัดแสดงยังรวมไปถึงวิดีโอสารคดีของมูลนิธิ LOEWE Foundation ซึ่งให้ความสนับสนุนครอบครัว Onishi ผู้สืบทอดศิลปะการทํากาต้มน้ําชาสําหรับพิธีชงชาในเกียวโตมากว่า 400 ปีนอกจากนี้ ยังมีผลงานของผู้เข้ารอบสุดท้ายในการประกวด LOEWE Foundation Craft Prize เช่น Tanabe Chikuunsai รุ่นที่ 4, Moe Watanabe, ผู้ชนะรางวัลในปี 2019 อย่าง Genta Ishizuka รวมไปถึงผลงานของศิลปินที่ร่วมงานกับโลเอเว่ในงาน Salone del Mobile อย่าง ARKO, Hafu Matsumoto, และ Jirō Yonezawa ที่ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายให้กับนิทรรศการนี้อย่างลงตัวนอกจากนั้นยังสามารถพบกับ façade พิเศษที่จะส่องประกายอย่างสวยงามพร้อมโลโก้ และสัญลักษณ์สุดไอคนิกของโลเอเว่ บันไดที่พร้อมจะถูกประดับประดาไปด้วยสติ๊กเกอร์พิเศษที่ถูกแจกให้กับแขกที่มาร่วมงาน และร้านค้าที่เต็มไปด้วยสินค้าพิเศษ ที่มีวางจำหน่ายเฉพาะที่ Crafted World Tokyo เท่านั้นอีกด้วย
เสริมด้วยแคตตาล็อกดิจิทัลที่นำเสนอข้อมูลเบื้องหลังเกี่ยวกับผลงานที่จัดแสดง นิทรรศการ Crafted World ถูกจัดแสดงในพื้นที่กว่า 1,300 ตารางเมตร และมีเซอร์ไพรส์มากมายตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการจำลองสตูดิโอของโลเอเว่ สวนดอกไม้ที่เคลื่อนไหวได้, และชุดนิทรรศการที่มีความสูงเท่าหัวเข่า สำหรับเด็กเล็ก นิทรรศการนี้ได้รับการจัดแสดงในห้องธีมต่างๆ ที่นำเสนอมุมมองในด้านแฟชั่น วัฒนธรรมและงานฝีมือของแบรนด์
Born from the Hand
คอนเซ็ปต์ Born from the Hand บอกเล่าเรื่องราวการเติบโตของ โลเอเว่ จากกลุ่มผู้ผลิตเครื่องหนังในปี 1846 สู่แบรนด์อันมีเอกลักษณ์สมัยใหม่โดยนำเสนอผ่านสินค้าชิ้นไอคอนิค เช่น เครื่องหนังสั่งทำในยุคแรกๆ และกระเป๋ารุ่นไอคอนิคอย่าง Amazona, Flamenco และ Puzzle ในเวอร์ชั่นแรก ควบคู่ไปกับแบบจำลองทางสถาปัตยกรรม ภาพถ่ายในคลัง สื่อโฆษณา และงานอันโดดเด่นของ Pablo Picasso และ Pedro Almodóvar ซึ่งงานแสดงได้สะท้อนถึงจิตวิญญาณในแต่ละยุคสมัย โดยนิทรรศการยังมีการจัดแสดงผลงานล่าสุดที่ร่วมมือกับ Anthea Hamilton รวมถึงเครื่องแต่งกายที่ออกแบบมาสำหรับ Rihanna และ Beyoncé และงาน MET Gala ปี 2024 .
Welcome to Spain
คอนเซ็ปต์ Welcome to Spain มอบประสบการณ์อย่างเต็มรูปแบบผ่านวิวภูมิทัศ์ในประเทศบ้านเกิดของโลเอเว่ รวมถึงชิ้นงานฝีมือ และแรงบันดาลใจในการออกแบบ ที่แบรนด์ยึดมั่นมาโดยตลอด นอกจากนี้ นิทรรศการยังจัดแสดง ผลงานเครื่องปั้นดินเผาของศิลปินชื่อดังชาวสเปนอย่าง ปาโบล ปิกาโซ เผยให้เห็นถึงความสำคัญของงานฝีมือที่มักถูกมองข้ามในผลงานของเขา เปิดฉากด้วยบ้านมุงกระเบื้องเทอร์ราคอตต้าอันเป็นเอกลักษณ์ของแคว้นกาลิเซีย สัมผัสมนต์เสน่ห์ของชายหาดทางตอนใต้ของสเปน ซึ่งเปลือกหอยจากหาดนี้ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับกระเป๋ารุ่น Raffia พร้อมด้วย เครื่องคั่วเกาลัดของ Laia Arqueros ที่อบอวลไปด้วยไอแดดแห่งฤดูร้อน ถัดมา ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลถูกนำมาตีความผ่าน คอลเลคชั่น Paula’s Ibiza ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งเสรีภาพ ปิดท้ายด้วยป่าต้องมนตร์ ที่อวลไปด้วยดอกไม้ พืชพรรณไม้ และนกนานาชนิด ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่าน แว่นตากันแดด ชาร์มห้อยกระเป๋าหนัง และกระเป๋าเพาช์
The Atelier
คอนเซ็ปต์ The Atelier จะพาเราเดินทางอีกครั้งผ่านเบื้องหลังอันซับซ้อน โดยนำผู้ชมผ่านกระบวนการอันพิถีพิถันในการผลิตกระเป๋าอันเป็นเอกลักษณ์ของโลเอเว่ เริ่มจากการตัด ลงสี และประกอบเครื่องหนัง ธีม The Atelier จัดแสดงเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสร้างต้นแบบและการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่ากระเป๋าแต่ละใบทนทาน และสามารถอยู่ได้หลายชั่วอายุคน ธีม The Atelier ทางเดินคดเคี้ยวที่เปรียบเสมือนเขาวงกตนี้จะนำพาคุณเจาะลึกสู่นวัตกรรมสุดล้ำ อาทิ งานปักคาเวียร์ (Caviar Embroidery) เทคนิคมาร์เกตรีหนัง (Leather Marquetry) ศิลปะพับกระดาษโอริกามิ (Origami Modelling) และ การพิมพ์แบบสามมิติ (3D Printing) ซึ่งสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความสร้างสรรค์ที่เป็นหัวใจสำคัญของโลเอเว่
The Castle Room
นำเสนอกระเป๋าความสูงสองเมตรรุ่น Howl’s Moving Castle ซึ่งออกแบบครั้งแรกสำหรับคอลเลคชั่นแคปซูลของ โลเอเว่ ในปี 2023 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์คลาสสิกของ Studio Ghibli เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ห้องเสื้อได้ใช้ศาสตร์ของงานฝีมือในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เหนือจริงจากภาพยนตร์ กระเป๋า Howl’s Moving Castle ขนาดใหญ่พิเศษนี้รังสรรค์ขึ้นจากส่วนประกอบจากกระเป๋ารุ่นอื่น ๆ จากโลเอเว่ ไม่ว่าจะเป็นแผงของกระเป๋ารุ่น Hammock ลูกคลื่นจากกระเป๋นคลัทช์รุ่น Flamenco ช่องเก็บของด้านในของกระเป๋ารุ่น Goya รวมไปถึงกระเป๋ารุ่น Amazonas และ กระเป๋าเพ้าช์รุ่น Bracelet ที่ถูกย่อขนาดลง และแน่นอนว่าห้องนี้ร่ายมนต์สะกดขาทุกคู่ที่ก้าวผ่านประตูห้องเข้ามา
Fashion Without Limits
ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ใช้ชื่อว่า Fashion Without Limits ได้นำผู้ชมดื่มด่ำกับความคิดสร้างสรรค์ระดับแนวหน้า ผ่านรูปแบบประติมากรรม และศิลปะ 3 มิติ ของคอลเลคชั่นรันเวย์ของ โจนาธาน แอนเดอร์สัน สำหรับโลเอเว่ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ในปี 2013 โดยธีมนี้มี 54 ลุคทั้งจากคอลเล็คชั่นสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี นำเสนอบนหุ่นวางสลับกับงานศิลปะเพื่อเน้นซิลูเอทให้โดดเด่นกว่าเดิม โดยภายในห้องจัดแสดงเดียวกัน เราจะได้เห็นประติมากรรม "Idol" ของ William Turnbull (1956) โมบายสิ่งทอของ Haegue Yang "The Intermediate – Dangling Hairy Hug" (2018) และเครื่องปั้นดินเผาเคลือบเงาของ Zizipho Poswa "Mireille Kamyanya, Congo" (2022) นอกจากนั้นในงานยังมีป้ายหน้าจอดิจิทัล 7 ชิ้นแนวตั้งที่ฉายวีดีโอบนรันเวย์ให้แก่ผู้ชมเสมือนกับการชมนางแบบที่เดินแบบในพื้นที่การแสดงจริง
United in Craft
คอนเซ็ปต์ United in Craft เฉลิมฉลองความสุขของการสร้างสรรค์ และแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนต่อวงการงานฝีมือทั่วโลกของโลเอเว่ อาทิเช่น มูลนิธิ LOEWE FOUNDATION ซึ่งมุ่งมั่นอนุรักษ์และสืบทอดมรดกอันเก่าแก่กว่า 400 ปี ของตระกูล Onishi ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตกาน้ำชาเหล็กในเกียวโต พร้อมทั้งส่งเสริมและปลูกฝังทักษะแก่ช่างฝีมือ Kama รุ่นใหม่ นิทรรศการยังนำเสนอ ผลงานจาก LOEWE Craft Prize งานประกวดประจำปีที่รวบรวมสุดยอดงานฝีมือจากทั่วโลก ควบคู่ไปกับ วิดีโอที่บอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของแต่ละชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคลือบเซรามิกสีสันสดใสจากราชวงศ์หมิงและชิง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคอลเลคชั่น Chinese Monochrome ปี 2023 ชิ้นงานพรมแขวนผนัง (Tapestries) ตะกร้าสาน ผ้าทอ เก้าอี้ และ โปรเจ็กต์เครื่องคั่วเกาลัด จากงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ Salone del Mobile ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานความร่วมมือกับช่างทอพรมแขวนผนังจากเอกวาดอร์ ช่างทำริบบิ้นจากอินเดีย ช่างสานตะกร้าจากแอฟริกาใต้ และ ช่างจักสานไม้ไผ่จากจีน ตลอดจนศิลปินร่วมสมัยชื่อดังอย่าง Alvaro Barrington และ Cerith Wyn Evans การจัดแสดงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่ออนาคตที่ยั่งยืน เช่น กระเป๋าลูกปัดรูปช้างจากองค์กรการกุศล Knot on My Planet ซึ่งผลิตโดยช่างฝีมือชาวเคนยา และแทนซาเนีย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงตะกร้าที่ได้รับการซ่อมแซมจากนิทรรศการ Salone del Mobile ปี 2022 ภายใต้ชื่อโปรเจค Weave, Restore และ Renew
Unexpected Dialogues
คอนเซ็ปต์ Unexpected Dialogues ถูกนำเสนอผ่าน 5 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะพาผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการที่มีอิทธิพลต่อแบรนด์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คอนเซ็ปต์นี้ประกอบด้วยสตูดิโอจำลองของช่างปั้นหม้อ Ken Price ในนิวเม็กซิโก ฉากเทพนิยายที่ซ่อนอยู่ตามกำแพงโดยนักเซรามิกชาวญี่ปุ่น ซูนะ ฟูจิตะ (Suna Fujita) ภาพคอลลาจโดย Joe Brainard ไปจนถึง Studio Ghibliการตีความการออกแบบกระเบื้องและผ้าทอของสถาปนิกจากขบวนการ Arts & Crafts ของอังกฤษ C.F.A. Voysey บทสุดท้ายของนิทรรศการนี้จะนำเสนอสวนดอกไม้ที่ลอยเคลื่อนไหว ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นในความร่วมมือกับสตูดิโอ edenworks จากโตเกียว
Crafted World Tokyo จะเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ถึง 11 พฤษภาคม 2025 ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 น. – 20.00 น. ( 6-35-6 Jingumae, Shibuya-Ku Tokyo 150-0001 )
นิทรรศการเปิดให้เข้าชมฟรี โดยต้องทำการสำรองที่นั่งล่วงหน้า สามารถจองตั๋วได้ผ่าน LINE หรือที่ https://craftedworld.loewe.com.