KISSO AT WESTIN GRANDE SUKHUMVIT

BY Staff writer One

  • 01 สิงหาคม 2559
  • 7,915

 

วันนี้เราจะพาชาวเมโทรไปลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นสไตล์ "ร่วมสมัย" ที่ซ่อนอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ พูดเลยว่ารสชาตินั้นต้นตำรับแท้ๆ และแต่ละเมนูน่าสนใจมากๆ ที่สำคัญเรื่องราคา ทุกคนเอื้อมถึงแน่นอน ร้านนี้มีชื่อว่า “KISSO” ที่ The Westin Grande Sukhumvit, Bangkok

 

 

 

ร้านนี้จริงๆ แล้วมีประวัติที่ยาวนานมาก หลายท่านอาจจะไม่รู้ หรือหลายท่านอาจจะเคยมาทานแล้ว เราจะมาเล่าให้ฟังว่าที่เปิดมาอย่างยาวนานนั้น มีความเจ๋งตรงไหนบ้าง เตรียมน้ำย่อยของคุณไว้ให้ดี

 

 

Kisso มีความหมายว่า " โชคดี มีแต่สิ่งดีๆ ” คือผู้ใดที่มาใช้บริการคิสโสะนั้นคือผู้ที่โชคดี นอกจากจะได้รับการบริการอย่างดีแล้ว ยังได้รับ สิ่งที่ดีๆ กลับไปอีกด้วย ร้านยังได้รับรางวัล “ห้องอาหารญี่ปุ่นยอดเยี่ยม” ทางด้านคุณภาพอาหารและการบริการจาก Bangkok Dining & Entertainment magazine และ “ห้องอาหารญี่ปุ่นดีเยี่ยม” จากผู้อ่าน Thailand Tatler Magazine คิสโสะมีอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับและร่วมสมัยที่ทำอย่างพิถีพิถัน

 

 

 

 

มาพูดถึงความกว้างขวางของร้านนี้กันก่อน ห้องคิสโสะได้ถูกดีไซน์แบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ โซนซูชิบาร์และห้องครัวแบบเปิด ให้คุณได้รับประทานอาหารและชมเชฟปรุงอาหารได้ และโซนห้องส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดตกแต่งด้วยไม้ และวัสดุที่ให้ความเป็นสนิมดูร่วมสมัยและสวยงามในเวลาเดียวกัน

 

 

 

 

โซนสุดท้ายเป็นโซนส่วนกลางสำหรับนั่งรับประทานอาหาร ซึ่งกั้นแบ่งโต๊ะต่างๆด้วยผลังลายฉลุญี่ปุ่น เพื่อการรับประทานอาหารแบบส่วนตัว และเป็นสัดส่วนซึ่งกันและกัน ให้อารมณ์สงบ เรียบง่ายแบบ วาบิ ซาบิ

 

สำหรับเมนูอาหารที่เราได้ไปลิ้มลองมาถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ขอบอกเลยว่าพลาดไม่ได้ซักเมนูเดียวอย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าอาหารส่วนมากจะเป็นอาหารแบบประยุกต์ แต่ยังคงรสชาติความเป็นต้นตำรับแท้ๆ 

 

Ebi Avocado Ae // 270 ฿ //

 

เริ่มที่เมนูเบาๆ อันดับแรกเป็นคล้ายๆ สลัดครีมอโวคาโดผสมกับเนื้อกุ้งโรยด้วยไข่กุ้ง ให้ความกรุบกรอบทุกสัมผัส 

 

Assorted Sushi

 

ต่อมาเป็นเซ็ทซูชิ ก็ถือว่าเต็มอิ่มเพราะคัดวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากต้นตำรับแท้ๆ มาให้เราได้ลิ้มลองแบบเต็มคำ

 

Japanese Waggu Beef Shabu-Shabu Salad With Sesame And Ponzu Sauce // 620 ฿ //

 

เห็นชื่อยาวแบบนี้ขอบอกเลยว่าจานนี้เราแนะนำ เพราะด้วยเนื้อวากิวคุณภาพนำมาประยุกต์จับคู่กับสลัด ซอสงา และซอสพอนสึ รสชาติกำลังดีไม่จัดเกินไป ซึ่งจานนี้ก็หมดลงภายในระยะเวลาอันสั้น

 

Salmon Lover Box // 580 ฿ //

 

เซ็ทนี้สำหรับคนรักปลาแซลมอนจริงๆ เพราะอัดเนื้อปลาแซลมอนคุณภาพมาเน้นๆ แถมปรุงด้วยรสชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นยำแซลมอน แซลมอนเทอริยากิ หรือสลัดแซลมอนก็มีให้ลอง ก็เป็นอีก1เซ็ทที่แนะนำ!

 

Eel And Fois Gras With Balsamic Teriyaki Sauce // 580 ฿ //

 

 

ซูมกันเข้าไปใกล้ๆสำหรับเมนูที่เราคิดว่าเด็ด คือปลาไหลและฟัวกราส์เทอริยากิ รสชาตินั้นพูดเลยว่าต้องมาชิมเอง แต่เห็นจากภาพคงจะรู้แล้วว่ามันโดนขนาดไหน เนื้อปลาไหลกับฟัวกราส์แน่นๆ ซอสเทอริยากิชุ่มๆ ต้องลอง

 

( Lunch Set )Grilled Snow Fish With Natural Salt // 680 ฿ //

 

 

เมนูปลาหิมะย่างเกลือนี้ขอบอกเลยว่าตกใจมาก เพราะไม่คิดจะมาเซ็ทใหญ่แบบนี้แถมเนื้อปลายังดูแน่นสุดๆ สัมผัสแรกที่ได้เอาเข้าปากคือ คุ้ม รสชาติดีมาก และยังมีปลาดิบมาให้อีก1จาน พูดเลยว่าแบ่งกันกิน 2 คนยังอิ่ม

 

Australian Waggu Sumibi Yaki

 

 

มาถึงเมนูสุดท้ายที่ถือว่าเป็น Main Dish ที่พลาดไม่ได้ของทางร้านคิสโสะ เซ็ทนี้ดูจากภาพก็ไม่ต้องอธิบายอะไร มันใหญ่มาก แถมเนื้อวากิวที่มาเสริฟมีมันแทรกทุกชิ้น หายห่วง เนื้อวากิวที่นี่ทุกชิ้นฉ่ำมากๆ Recommend!

 

Special Desserts

 

 

 

ล้างปากด้วยเมนูของหวานสุดพิเศษจากทางร้านกันบ้างซึ่งที่เราแนะนำ(แบบต้องไปโดน)จริงๆ ก็คงจะเป็นเยลลี่ไวน์บ๊วยญี่ปุ่นกับซอร์เบสาเก รสชาตินั้นถูกปากมากแต่สำหรับคนที่ไม่กินแอลกอฮอล์ก็คงต้องข้ามไปก่อน สุดท้ายที่แนะนำก็เป็น ไอศครีมพาเฟ่ต์แบบญี่ปุ่น ดูจากชื่อแล้วอาจจะดูธรรมดาแต่พอมาเสริฟแล้วถึงกับต้องอึ้ง เพราะเครื่องถั่วแดง ผลไม้ วุ้น เรียกว่าใส่เข้ามาแบบอัดแน่นแถมรสชาติยังเข้ากันสุดๆ อีกด้วย

 

 

"สนใจเมนูอาหารที่ผสมผสานความคิด การประยุกต์ และความร่วมสมัย ก็ไปลิ้มลอง ไปโดนกันได้ที่ห้องอาหารคิสโสะครับ เราบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง"

 

ห้องอาหารคิสโสะ ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท

เปิดให้บริการทุกวันมื้อกลางวัน 12.00-14.30 น. และมื้อเย็น 18.00 – 22.30 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 02-207-8000

 

www.kissojapaneserestaurant.com