McLaren Artura

BY Ghostwriter

  • 18 มิถุนายน 2564
  • 28,575

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ McLaren Artura ซูเปอร์คาร์ไฮบริด สมรรถนะสูง (High-Performance Hybird-HPH) รุ่นแรกของแมคลาเรน ออโตโมทีฟ ประเทศอังกฤษ

ด้วยการพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ McLaren Carbon Lightweight Architecture (MCLA) ที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา กับเลย์เอ้าท์เครื่องยนต์ วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ วางกลางลำ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 3.0 วินาที สามารถขับเคลื่อนในโหมด EV ได้ระยะทาง 30 กิโลเมตร

 

 

McLaren Artura เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ล่าสุด McLaren Bangkok ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ แมคลาเรน ออโตโมทีฟ ด้วยการส่งซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นนี้มาอวดโฉมในไทยเป็นประเทศแรกของภูมิภาคอาเซียน

 

 

All-new McLaren Artura เป็นซูเปอร์คาร์ซีรี่ส์ไฮบริดรุ่นแรกของแมคลาเรนออโตโมทีฟที่ขึ้นสายการผลิตและทำตลาดต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการด้วยการหลอมรวมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 50 ปี จากการพัฒนา Racing Car สู่ Road Car พร้อมนำเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย ระบบไฮบริดชั้นสูงเพื่อถ่ายทอดสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบให้ถึงมือผู้ขับขี่แมคลาเรนทั่วโลก

 

 

 

ส่วนการออกแบบ การพัฒนาและการผลิตโครงสร้าง มีขึ้นที่ศูนย์ McLaren Composites Technology Center (MCTC) เมืองเชฟฟิล ประเทศอังกฤษ ที่แมคลาเรนลงทุนไปกว่า 50 ล้านปอนด์ (ประมาณกว่า 2,200 ล้านบาท) ซึ่งจะรองรับการพัฒนาซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ๆ และเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในอนาคต

 

 

เครื่องยนต์ M630 วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ วางกลางลำตัวรถ ให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 585 นิวตัน-เมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 95 แรงม้า และแรงบิด 225 นิวตัน-เมตร

เมื่อรวมประสิทธิผลของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้กำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SSG  8 จังหวะรุ่นใหม่ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ 3.0 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ภายใน 8.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม.

 

 

การตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “form follows function” เน้นประโยชน์ใช้สอยและผู้ขับสามารถควบคุมปุ่มสั่งงานได้ทั้งหมด พร้อมหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบอินโฟเทนเมนต์ และระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS) รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสื่อสาร ระบบแชร์หน้าจอจากสมาร์ทโฟน (Smartphone Mirroring) และการอัปเดตข้อมูล – ระบบปฎิบัติการผ่านดาวเทียม (Over-The-Air หรือ OTA) ทั้งยังมีระบบติดตามยานพาหนะเมื่อถูกโจรกรรมอีกครั้ง (ออพชั่นนี้ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ)

 

 

ในส่วนช่วงล่างได้รับการออกแบบใหม่ ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ อลูมิเนียม ส่วนหลังใช้ปีกนกด้านบนและมัลติลิงค์ด้านล่าง พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิกและระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในคู่หน้า และขนาด 20 นิ้วคู่หลัง ประกบยางสมรรถนะสูง Pirelli P ZERO ด้านหน้า 235/35 ZR19 และหลัง 295/35 R20

 

 

สำหรับ McLaren Artura ซูเปอร์คาร์ไฮบริด จะวางตำแหน่งการทำตลาดระหว่าง รุ่น GT และ 720S โดยตั้งราคาขาย 16.7 ล้านบาท พร้อมการรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 75,000 กม. และรับประกันแบตเตอรี่ 6 ปี หรือ 75,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Further information about the McLaren Artura is available at: http://cars.mclaren.com/en/artura