คืนนี้ดื่มอย่างไร ผ่านด่าน (เป่า) ผ่านฉลุย

เราฐานะผู้ชายคงเข้าใจดีว่าทุกงานเลี้ยงสังสรรค์ จะหาความสนุกได้ครบสูตรจะต้องมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกครั้ง และดูจะเป็นบรรทัดฐานทางสังคมไปแล้วก็เป็นได้ เพราะจะให้คนไทยเลิกดื่มคงยาก แต่ปัญหาอยู่ที่เราไปดื่มนอกบ้านขากลับจะฝ่าด่านตรวจแอลกอฮอล์ของตำรวจได้อย่างไร? แล้วตื่นเช้าจะไปทำงานแบบไม่เสียงาน

 

เมื่อการดื่มสังสรรค์เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คุณ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงใดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มทำให้เกิดความสนุกสนาน สร้างบรรยากาศครึกครื้นในงานเลี้ยงได้ ไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะเงินเดือนออก เจ้านายเลี้ยง วันเกิดเจ้านาย งานเลี้ยงรับรองจะหลีกเลี่ยงไม่ไปก็ไม่ได้เพราะหน้าที่การงาน แต่อย่าลืมว่าไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา และแล้วขากลับดันมีด่านตรวจแอลกอฮอล์ของตำรวจ อยู่ข้างหน้า จะทำอย่างไรดี

 

 

เป่าครับ ! เป่า นี่เป็นคำสั่ง เชื่อว่าคงตื่นเต้นกว่าลุ้นบอลซะอีก เพราะหากตัวเลขเราเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ล่ะก็...เป็นเรื่อง ส่วนเรื่องอะไรนั้นคงรู้ดี ว่าแล้วเราทำไมไม่ลองหาทางป้องกันตัวเลข 50 ที่ว่านี่ซะ ก่อนอื่น วิเคราะห์หาสาเหตุ หาที่มาของปัญหาเกิน 50 นี้ซะ เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ให้แก้ปัญหาจากสาเหตุ

        

 

เวลาเราดื่ม แอลกอฮอล์จะโดนดูดซึมลงสู่กระแสเลือด ส่วนหนึ่งจะออกทางลมหายใจและลมหายใจนี่เอง ด่านตรวจแอลกอฮอล์ของตำรวจใช้เป็นดัชนีวัดว่าเกิน 50 หรือไม่ เราเมาหรือไม่เมาเขาไม่สนหรอก ขึ้นอยู่ที่อวัยวะภายในใครกำจัดไวกว่ากัน และตับคืออวัยวะภายในของเราที่มีหน้าที่กำจัดแอลกอฮอล์ออกจากกระแสเลือด กล่าวคือตับกำจัดเร็วก็จะหลงเหลืออยู่ในกระแสเลือดน้อย เวลาเป่าลมหายใจเราเข้าเครื่องเป่าที่ด่านตรวจแอลกอฮอล์ของตำรวจก็จะไม่เกิน 50 จะทำอย่างไรให้ตับกำจัดเร็ว

ร่างกายคนเราต่างกันเพราะน้ำหนักร่างกาย และสภาพความเคยชินกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือที่เรียกกันติดปากว่า “คอแข็ง” บางคนดื่มนิดเดียวก็เมาเพราะตับกำจัดช้า ยิ่งนานแอลกอฮอล์ก็จะทำปฏิกิริยากับสารเคมีในร่างกายทำให้เกิดกลิ่นละมุด ส่วนบางคนเร็วดื่มมากแค่ไหนก็ไม่เมา     

       

 

เริ่มจากลองหาโอกาสที่ได้ดื่มกับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมแก๊งสักครั้งลองทำตามคำแนะนำดู รับประทานอาหารให้พออิ่มก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนดื่ม ไม่เช่นนั้นอาหารที่รับประทานอาจออกมากองอยู่ข้างนอก การรับประทานอาหารเป็นการป้องกันไม่ให้ท้องว่าง เพราะร่างกายจะดูดซึมแอลกอฮอล์ช้าทำให้ตับค่อย ๆ กำจัดออกได้ทัน

     

เลือกเครื่องดื่มที่มีดีกรีแอลกอฮอล์น้อยและขณะดื่มควรผสมเครื่องดื่มกับโซดาเจือจาง อย่าดื่มเพียว ๆ หยุดชงเหล้าให้เจ้านายบ้าง เพื่อนสนิทบ้างเวลาไปกับเจ้านาย ควรจดจำให้ได้ว่าเจ้านายชอบแบบไหน ชวนเจ้านายคุยไปพลาง ๆ หรือเวลาไปกับเพื่อน ๆ ก็พักคุย บ้าง การคุยจะเป็นการชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ ตับจะได้ค่อย ๆ กำจัดออกไป     

ยกดื่มห่าง ๆ อย่าสุดซอย สุดซอยเป็นศัพท์ในวงเหล้าแปลว่ายกทีเดียวหมดแก้ว เวลาไปกับเจ้านายก็อย่าเมาก่อนนาย เป็นกฎของลูกน้อง

 

      

ก่อนกลับซักครึ่งชั่วโมงดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้น้ำขับแอลกอฮอล์ออกไปทางปัสสาวะก่อนกลับ โดยไม่ผ่านตับ ก่อนเช็คบิลอมน้ำสะอาดบ้วนปากก่อนลุก เอาล่ะทีนี้ ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ส่งเจ้านายแหกด่านกลับบ้านได้ฉลุย ตื่นนอนตอนเช้าดื่มเบียร์สักแก้วก่อนออกไปทำงานรับรองว่าทำงานทั้งวันแบบไม่มีแฮงค์

       

อย่างไรก็ตามการดื่มนั้นไม่ควรขับขี่เพราะ ไม่เพียงตัวคุณจะเกิดอุบัติเหตุ เพื่อร่วมทางที่เขาไม่ได้ดื่มก็อาจจะต้องเดือดร้อนไปกับคุณ และสมมุติว่าเมามาก ๆ จนเดินโซเซก็นั่งแท็กซี่ดีกว่า อย่าฝืนขับกลับเพราะคงไม่ผ่านด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์

 

---

 

เอกสารอ้างอิง:

• พระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา43(2)
• บทความ:ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขับขี่พาหนะโดยไม่ผิดกฎหมาย ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล