คิดลาออกจากงาน มีสิ่งเหล่านี้แล้วหรือยัง?

BY Staff writer One

  • 01 ตุลาคม 2559
  • 2,636

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อหน่ายกับงานที่ทำอยู่ หรือรู้สึกว่างานนี้ไม่ใช่งานของฉันแล้ว จนคิดว่าอยากจะลาออกจากงาน ซึ่งโอเคมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะเลือกอะไรแล้วสบายใจ แต่ก่อนจะตัดสินใจไปเขียนใบลาออก อยากให้อ่านบทความนี้ดูก่อน และพิจารณาเองว่าคุณพร้อมกับการลาออกแล้วหรือยัง 

 

 

1.มีเงินที่สามารถเอามาใช้จ่ายได้อย่างน้อย 6 เดือน

เงินก้อนนี้ที่พูดถึงคือเงินที่จะเอามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนตอนที่เรากำลังหางานทำ และเงินเก็บก้อนนี้ต้องครอบคลุมภาระหนี้สินที่เราต้องรับผิดชอบในแต่ละเดือนด้วย เช่นค่าเช่าบ้าน ค่างวดรถ ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น โดยเงินก้อนนี้แต่ละคนมากน้อยไม่เท่ากัน บางคนมีภาระที่ต้องใช้จ่ายมาก บางคนมีค่าใช้จ่ายน้อย แต่ยังไงก็อย่าให้น้อยจนลำบากถึงขั้นต้องกัดก้อนเกลือกินจะดีกว่า

 

 

2.มีแผนสำรองและพร้อมเจอกับความผิดหวัง

 

ไม่น้อยที่เดี๋ยวนี้คนลาออกจากงานประจำหันมาเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะอาจจะเบื่อกับการที่ต้องคอยฟังเจ้านายบ่น หรือลาออกไปอยู่ที่อื่นเพื่ออยากจะก้าวหน้าในการทำงาน แต่โลกแห่งความจริงกับโลกแห่งความฝันที่คิดกันในหัวมักจะไม่ค่อยไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นก็ควรจะต้องมีแผนสำรองเผื่อไว้ซะบ้าง เช่นธุรกิจที่ลงทุนไปไม่รุ่งจะทำอะไรต่อ หรืองานที่สมัครไว้แล้วเค้ายังไม่รับ เราจะทำยังไง เพราะเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ จะได้ไม่ต้องคิดหนักและเครียดหนักกว่าตอนทำงานที่เดิมอยู่ไงล่ะ

 

 

3.มีการพัฒนาความรู้และความสามารถ

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า 'พรสวรรค์' และ 'พรแสวง' กันมาบ้าง แต่ข้อนี้จะขอโฟกัสที่พรแสวงกันล้วนๆ ที่บอกว่าควรจะพัฒนาความรู้และความสามารถในที่นี้นั้น ก็เพราะว่าการที่เมื่อเรามีความรู้และความสามารถแบบแน่นๆ แล้วนั้น ไม่ว่าจะทำธุรกิจของตัวเอง หรือทำงานในที่ใหม่นั้น ย่อมจะประสบความสำเร็จกว่าคนที่ไม่มีพรแสวงกันอย่างแน่นอน 

 

 

4.มีร่างกายที่แข็งแรง

ฟังผ่านๆ อาจคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับข้อนี้ แต่อยากให้คิดกันใหม่ซะ! เพราะหากลาออกจากงานไปเรียบร้อยแล้วอยู่ๆ ตรวจเจอมะเร็ง หรือตรวจเจอว่าเป็นโรคหัวใจขึ้นมา ตอนนี้จะเอาเงินที่ไหนมารักษากันล่ะ ครั้นจะให้เอาเงินเก็บตอนว่างงานมาใช้มันก็ไม่ใช่เรื่องหรือเปล่า?!?! ดังนั้นก่อนลาออกจากงานก็เช็คสภาพตัวเองดีๆ ก่อนจะโอเคที่สุด

 

 

5.มี Connection

ในการหางานสมัยนี้ถ้าเดินดุ่มๆ เข้าไปสมัคร บอกเลยว่าโอกาสได้งานนั้นน้อยมาก ยิ่งถ้าไม่ได้จบมาจากมหาวิทยาลัยดังแถวสามย่าน หรือท่าพระจันทร์แล้วล่ะก็ ยิ่งริบหรี่เข้าไปใหญ่ ดังนั้นการที่เรามี Connection กับบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เราอยากไปเริ่มงานใหม่ด้วยก็เป็นใบเบิกทางที่สำคัญ ยิ่งใครที่ออกมาเปิดธุรกิจส่วนตัวแล้วด้วยข้อนี้ยิ่งสำคัญ ในการที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้า

 

6.มีการปรึกษากับคนรอบข้าง

บางทีปัญหาในการทำงานอาจจะทำให้เราท้อแท้ จนอยากจะลาออกให้มันจบๆ ไป แต่ลองระบายให้คนรอบข้างฟังแล้วหรือยัง ถ้ายังเราแนะนำว่าควรทำอย่างยิ่งนะ เพราะเค้าอาจมีมุมมองดีๆ กับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับเรา หรืออาจจะแนะนำทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาให้ได้ด้วย 

 


 

ถ้าถึงตรงนี้แล้วใครที่มีครบก็ขอให้เดินหน้าลุยให้เต็มที่ ซึ่งจะขอแนะนำทิ้งท้ายไว้สักหน่อยเกี่ยวกับการลาออกจากงานให้เป็นมืออาชีพ ไม่ใช่เหวี่ยงวีนเดินออกมาเฉยๆ 

 

- ยื่นจดหมายลาออกให้เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้า 15 - 30 วันก็ว่ากันไป จะได้มีหลักฐานการลาออกกันทั้งสองฝ่าย และไม่มีปัญหาทางกฎหมายกันในภายหลังด้วย

 

- เคลียร์งานที่คั่งค้างให้เสร็จก่อนจะออก ไม่ต้องให้คนมาทีหลังตามล้างตามเช็ด อาจจะโดนด่าพ่อโดยไม่รู้ตัว

 

- ของส่วนตัวก็เก็บกลับไปด้วย อย่างบนโต๊ะทำงาน ก็เก็บพวกเครื่องเขียน สมุดโน้ตต่างๆ ไปซะ ส่วนของของบริษัท เช่นเครื่องโน้ตบุ้ค โทรศัพท์ ก็ไปคืนด้วยตัวเองซะ เพราะเห็นมานักต่อนักแล้ว ฝากเพื่อนร่วมงานคืน สุดท้ายก็ไม่ถึงฝ่ายบุคคลอยู่ดี

 

แต่ถ้าใครยังลังเลว่าจะยังไงดีก็อยากให้ตั้งสติและหาต้นเหตุที่ทำให้เราเบื่อกับงานให้เจอแล้วแก้ไขมัน ดีไม่ดีอาจไม่ต้องลาออกจากงานแล้วจะรักงานมากกว่าเดิมก็ได้นะครับ

 

Credit : www.aommoney.com