10 เรื่องที่ควรรู้ก่อนคิดจะเข้าฟิตเนส

BY Ghostwriter

  • 20 มีนาคม 2560
  • 5,669

และแล้วเราก็มาถึงยุคสมัยที่ผู้ชายหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น รักสุขภาพกันมากขึ้น  ทำตัวเองให้ดูดีมากขึ้น ซึ่งเมื่อถามถึงการออกกำลังกาย ผู้ชายในสมัยนี้คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไปฟิตเนสสิ” ฉะนั้นวันนี้ Metro Society จึงมี 10 tricks มาแชร์ให้รู้กันไปเลยว่า เมื่อก้าวเท้าเข้าฟิตเนสไปแล้ว คุณควรทำอย่างไรบ้าง

 

 

1.โปรดระวังเงื่อนไขต่างๆ ในการเป็น Member

ข้อแรกที่คุณควรรู้ถ้าคิดจะเล่นฟิตเนส คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการสมัคร Member ของฟิตเนสที่เราสนใจ ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นฟิตเนสต่างๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ซึ่งส่วนมากการสมัครเข้าเป็น Member ทางฟิตเนสส่วนใหญ่จะเสนอการจ่ายค่าบริการในรูปแบบรายครึ่งปี หรือไม่ก็รายปีเป็นการทำสัญญาแบบผูกขาด หากใครที่สนใจจะต้องให้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำธุรกรรมในการจ่ายค่าบริการผ่านบัตรเครดิต ตรงนี้จะลำบากมากหากคุณคิดอยากจะเปลี่ยนฟิตเนสกระทันหัน ทั้งต้องเสียค่าธรรมเนียมในการยกเลิกที่แสนไร้สาระ หรือการดำเนินเรื่องที่ยาวนานเหลือเกิน เพราะฉะนั้นทางที่ดีคุณควรจ่ายค่าบริการเป็นงวดๆ ด้วยเงินสดจะดีเสียกว่า เพื่อจะได้ไม่โดนปรับหรือโดนหักเงินผ่านบัตรเครดิตที่คุณลงทะเบียนไว้นั่นเอง

 

2.หลีกเลี่ยงเหล่า Trainer นิสัยพ่อค้า-แม่ค้า

เหล่าเทรนเนอร์ที่มีนิสัยพ่อค้า-แม่ค้าเหล่านี้ ขยันที่จะขายคอร์สเทรน (เชิงยัดเยียด) อย่างเดียวโดยที่ไม่สนความต้องการของคุณแม้แต่นิดเดียว ซึ่งบางครั้งทำให้คุณไม่มีอิสระในการเล่นยิมเลยด้วยซ้ำ แถมยังมีลูกเล่นหลอกล่อให้คุณมาสมัครบริการของเขาอีก ด้วยคำว่า “คุณอาจจะเล่นไม่ถูกท่า” หรือ “สมัครวันนี้ลดราคา” เมื่อคุณได้ยินคำนี้ได้โปรดรับรู้ได้เลยว่าคุณตกเป็นเหยื่อ พ่อค้า แม่ค้าประจำฟิตเนสซะแล้ว

 

 

 

 

3.บอกเทรนเนอร์ไปเลยว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร

ต่อจากข้อมูลข้างต้น ถ้าคุณสนใจที่จะมีเทรนเนอร์มันก็ไม่ผิด แต่ต้องทำความเข้าใจกับเทรนเนอร์ไปเลยว่า ความต้องการ เป้าหมายของคุณคืออะไร เพราะเขาจะได้ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการจัดตารางการรับประทานอาหาร สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือจัดตารางการออกกำลังกายที่สุดฟิต เพื่อร่างกายที่กระชับและแข็งแรง ซึ่งเขาไม่ได้ช่วยคุณแค่ที่ฟิตเนสนะ แต่ผลพลอยได้ถ้าคุณมีเทรนเนอร์ประจำตัว คุณอาจจะได้ตารางการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่สามารถนำไปใช้ได้ที่บ้านอีกด้วย

 

4.เปลี่ยนตารางการเล่นฟิตเนสบ้าง

อย่าหลงลืมเป้าหมายของคุณว่าเล่นฟิตเนสไปทำไม บางคนเล่นเพื่อเผาผลาญ บางคนเล่นเพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ไม่ว่าเป้าหมายของคุณเป็นเช่นไร คุณควรปรับเปลี่ยนตารางการเล่นฟิตเนสบ้าง เพราะอะไรที่ทำเป็นเวลานานจนกลายเป็นความเคยชิน ความเคยชินนั้นอาจแปรเปลี่ยนไปเป็นความเบื่อหน่ายได้ เพื่อลดความท้อในการเข้าฟิตเนสควรปรับตารางของตัวเองให้มีความสนุกมากขึ้น โดยไม่หลงลืมเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

 

5.ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม

คำที่เหล่าบรรดาฟิตเนสใช้กันว่า “ลดเร็ว” “ลดไว” “ผอมทางลัด” เชื่อเถอะว่ามันไม่มีอยู่จริง! แต่มันจะมีอยู่จริงได้ สำหรับคนที่อดทนรอและมีวินัยกับตัวเอง เพราะฉะนั้นคุณต้องออกกำลังกายด้วยวิธีที่ถูกต้องและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยอยู่บนพื้นฐานของร่างกายและจำไว้เสมอว่า ‘อย่าหักโหม’ เพราะถ้าเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมา จากที่เคยต้องเสียเวลาการออกกำลังกายอาจจะต้องเอาเวลาไปรักษาตัวเองแทน

 

 

6.ผลิตภัณฑ์ต่างๆ นาๆ นี่มันไร้สาระสิ้นดี

เคยได้ยินคำว่า ‘ทานอะไรได้อย่างนั้น’ กันหรือเปล่า? ถ้าคุณเป็นคนที่รับประทานเนื้อสัตว์อยู่แล้วทุกวัน แล้วทำไมถึงต้องรับประทานผงโปรตีนเข้าไปอีกด้วยล่ะ? เรากำลังจะบอกว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแค่รับประทานเนื้อสัตว์ตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันแค่นี้ก็เพียงพอแล้วแถมไม่สะสมในร่างกายอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณด้วยล่ะว่า ในแต่ละวันได้รับสารอาหารเพียงพอกับเป้าหมายในการเล่นฟิตเนสของคุณหรือเปล่า ถ้าไม่พอจริงๆ ก็หามากินได้ไม่ผิดอะไร

 

7.ฟังร่างกายตัวเองบ้าง

จะมีใครเข้าใจตัวเราได้ดีไปกว่าตัวเราเอง จริงไหม? ลองสังเกตร่ายกายของตัวคุณบ้างว่า เขารู้สึกอย่างไรอยู่ เขาเหนื่อยมากน้อยเพียงไหน เพราะหากคุณออกกำลังอย่างหักโหม อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ค่อยๆ ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอจะดีเสียกว่า  

 

 

 

8.อย่าเชื่อคำพูดของคนที่บอกว่า Cardio มันแย่

ตามจริงแล้วมันไม่ได้แย่เลย เพราะจริงอยู่ที่การสร้างกล้ามเนื้อนั้นดีและเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่การคาร์ดิโอจะช่วยทำให้ร่างกายกายของคุณแข็งแกร่งมากขึ้น  การเวทอย่างเดียวไม่ได้ทำให้คุณสุขภาพดีเท่าที่ควรเพราะฉะนั้นคุณควรคาร์ดิโอด้วยเมื่อมีเวลา เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค เป็นต้น

 

9.โปรดระวัง โปรแกรมออกกำลังกายทางอินเตอร์เน็ต

ก่อนที่คุณจะเริ่มออกกำลังกาย คุณต้องมีเป้าหมายและโปรแกรมการออกกำลังกายเสียก่อน ในกรณีที่คุณไม่มีเทรนเนอร์ส่วนตัว ส่วนมากแล้วการหาโปรแกรมการออกกำลังกายทางอินเทอร์เน็ตนั้นง่ายและสะดวก แถมเขายังรับประกันอีกว่า ใช้ลดได้จริง ให้ผลไว้ และไม่เป็นอันตราย ซึ่งใครก็ตามที่นำมาทำตาม บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด เพราะอย่างที่กล่าวไว้แล้วว่าให้ผลไว หรือ เป็นทางลัด มันไม่มีอยู่จริง 

‘You have to work out everyday!’

 

10.ถ้าต้องการลดน้ำหนัก Calories เท่านั้นที่จะช่วยคุณได้

สำหรับคุณผู้ชายรู้ไหมว่าร่างกายของเรานั้นต้องการพลังงาน เฉลี่ยประมาณ 2,000 กิโลแคลลอรี่ ต่อวัน ถ้าอยากได้น้ำหนักตามที่คุณต้องการวิธีที่ดีที่สุดนั้น คือการนับแคลลอรี่ ว่าวันนี้เรารับประทานน้อยไปหรือมากเกินที่ร่างกายของคุณต้องการต่อวันหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าอาหารที่แคลเลอรี่เยอะๆ นั้นก็ได้แก่พวกอาหารทอด อาหารที่มีน้ำมันต่างๆ หรือไม่ก็ลองหันมาทานอาหารคลีนกันดูก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว ส่วนการอดอาหารหรือรับประทานอาหารให้น้อยลงเป็นวิธีที่ใครหลายคนทำแต่ต้องบอกเลยว่าเป็นวิธีที่ผิด คุณควรจะรับประทานอาหารให้เพียงพอในแต่ละวันและออกกำลังให้มากขึ้นเพราะจะส่งผลดีต่อสุขภาพทางกายและสุขภาพทางใจของคุณมากที่สุด