LOUIS VUITTON • Spring/Summer 2018
- 25 มกราคม 2561
- 36,022
“มีคนให้หนังสือผมมาเล่มหนึ่ง เรื่อง ‘Atlas of Remote Islands: Fifty Islands I Have Not Visited and Never Will’ และผมก็นึกได้ว่าผมเคยไปเกาะเหล่านั้นมาหมดแล้ว” คิม โจนส์ (Kim Jones) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สุภาพบุรุษของหลุยส์ วิตตอง กล่าว “ผมนึกถึงเกาะบางเกาะ อย่างเกาะนิวซีแลนด์ เกาะอีสเตอร์ และโดยเฉพาะเกาะฮาวาย แต่ผมได้แรงบันดาลใจจากการนึกถึงเกาะ ๆ หนึ่งและการเดินทาง ความสะดวกในการเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง การได้สัมผัสอารยธรรมต่างๆ และเอกลักษณ์ที่แตกต่าง”
จิตวิญญาณแห่งนักเดินทางเป็นแรงบันดาลใจของคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2018 (Spring/Summer 2018) ของหลุยส์ วิตตอง โดยไม่ได้เน้นสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งเป็นพิเศษ แต่เป็นสถานที่หลายๆ แห่ง การเดินทางท่องเที่ยวไปยังเกาะต่างๆ การได้สัมผัสกับผู้คนท้องถิ่นที่หลากหลาย การผสมผสานและจับคู่ เกิดจากการนำรายละเอียดต่าง ๆ จากหลาย ๆ ที่มาหลอมรวมกัน ราวกับว่ามีหมู่เกาะบนแผ่นหลังของคุณเลยก็ว่าได้
ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเกาะที่ล้อมรอบด้วยน้ำ ตัดขาดจากโลกภายนอก จึงทำให้มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมโดดเด่น ฮาวายเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในคอลเลคชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตฮาวายพิมพ์ลายหรือลวดลายใบไม้ที่ซับซ้อน รวมไปถึงลวดลายใหม่ๆ สไตล์ฮาวายที่รังสรรค์ขึ้นโดยหลุยส์ วิตตอง กีฬาเอ็กซ์ตรีมต่างๆ เช่น การเล่นวินด์เซิร์ฟ การปีนเขา การท่องป่า รังสรรค์ให้เกิดซิลลูเอ็ทใหม่ๆ และกราฟฟิคที่แปลกตา คำว่าหลุยส์ วิตตองกลายเป็นสโลแกนของทีม และมีการประดับลวดลายบนสเว็ตเตอร์ เสื้อยืด และซิปสคูบา
เสื้อผ้าเกิดจากการผสมผสาน แต่ไม่ใช่การนำแรงบันดาลใจหลาย ๆ อย่างมารวมกัน การผสมผสานนี้มีความชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ เฉกเช่นเดียวกับเกาะนั่นเอง เสื้อผ้าสุดเนี้ยบตกแต่งด้วยการใช้โมแฮร์สองสี มีรอยผ่าตรงกลาง ดูคล้ายกับว่านำสองชิ้นมาเย็บติดกัน หรือจะเป็นเสื้อคาร์ดิแกนจระเข้ตัดเย็บด้วยผ้านิต (knit) กลับด้าน เสื้อผ้าอื่นๆ เป็นการผสมผสานสปอร์ตแวร์และสูท ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ความเป็นชายที่แตกต่างกัน
รูปทรงสปอร์ตแวร์ที่พอดีตัวได้แรงบันดาลใจมาจากชุดดำน้ำและชุดเล่นเซิร์ฟ ผสมผสานกับรายละเอียดของเสื้อผ้าทางการ แรงบันดาลใจมาจากเกาะ และในคอลเลคชั่นนี้เป็นเกาะที่ทันสมัยอย่างฮ่องกง คาแร็กเตอร์ทั้งสองถูกนำมารวมกันในชุดเดียว ชุดสูทมีความสบายในการสวมใส่คล้ายสปอร์ตแวร์ และมีคุณสมบัติที่ช่วยเรื่องการเคลื่อนไหว ส่วนเสื้อฮาวายหลากสีหลายลายนั้นมาพร้อมกับออร์แกนซ่าลายเดียวกัน เป็นเสื้อผ้าที่มีการเคลื่อนไหว ราวกับว่าลวดลายเหล่านี้เดินทางไปบนเรือนร่าง เป็นการสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์แห่งการเดินทางของหลุยส์ วิตตอง
เนื้อผ้ามีความบางเบาทันสมัย และพลิ้วไหว ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม โมแฮร์ หรือผ้าย่นเซียร์ซักเกอร์ (seersucker) รวมไปถึงหนังลูกแกะบางเฉียบแบบสคูบา (scuba) ผสมผสานกับนีโอพรีน (neoprene) เป็นเนื้อผ้าที่เหมาะกับการเดินทางและสะดวกต่อการใช้งาน เหมาะกับการท่องเที่ยวไปยังเกาะต่างๆ และยังสะท้อนถึงรากแห่งความเป็นหลุยส์ วิตตองที่ใส่ใจการใช้งานอีกด้วย สีสันเป็นการตัดกันระหว่างสีโมโนแกรมและสีสันนีออนที่ได้แรงบันดาลใจจากกีฬา ล้อมรอบด้วยสีฟ้าน้ำทะเล
ธีมของการผสมผสานยังสะท้อนผ่านกระเป๋าและรองเท้าอีกด้วย โมโนแกรม สปลิท (Monogram Split) รุ่นใหม่ ซึ่งนำโมโนแกรม แคนวาส ของหลุยส์ วิตตองที่เป็นรุ่นไอคอนิคมาใส่โทนสีให้คอนทราสต์กันบนใบเดียว และเน้นให้โดดเด่นด้วยตะเข็บตรงกลาง มีทั้งในแบบคีพออล (Keepall) ที่ตกแต่งด้วยตะเข็บด้านข้าง และแบบกระเป๋าโท้ทโอเวอร์ไซส์ที่ให้สีกระเป๋าทูโทนคอนทราสต์กันในแนวตั้งรวมทั้งบนหูจับด้วย
ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าถือ นี่คือการเดินทางครั้งใหม่จากอดีตสู่ปัจจุบัน ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่ สีสันและลวดลายโมโนแกรมแบบใหม่ถูกนำมาใช้ในคอลเลคชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงินแปซิฟิกโคบอลท์บลู (Pacific cobalt blue) หรือสีรีเฟลกท์ (Reflect) สะท้อนแสง ที่ใช้ในการเล่นกีฬา
ธีมความเป็นสปอร์ตแวร์ ทั้งการเซิร์ฟ การดำน้ำ และการเดินป่า นำเสนอผ่านเสื้อผ้าแนวสปอร์ตใน “โมโนแกรม เอ้าท์ดอร์” (Monogram Outdoor) ซึ่งผสมผสานแคนวาสและตาข่ายแบบสปอร์ต ซิปสคูบาเชือก และฮาร์ดแวร์โลหะที่มีสีสันอย่างที่นักปีนเขาใช้ เป็นสไตล์ใหม่ที่ผสมผสานพลังงานเข้ากับโลกเอาท์ดอร์ สไตล์อื่น ๆ นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากอาร์ไคฟ์ เช่นการนำกระเป๋าโนเอ้ (Noe) มาทำเป็นกระเป๋าเป้ขนาดใหญ่ หรือรองเท้าสไตล์คล็อกสำหรับผู้หญิง
รองเท้าเป็นการผสมผสานกันระหว่างคล็อกและรองเท้าบู้ทเดินป่า ผสมสไตล์ระหว่างฮาราจูกุและฮอนโนลูลู กระเป๋าเดินทางของหลุยส์ วิตตองเป็นแรงบันดาลใจของส้นรองเท้าสีเทาและตกแต่งด้วยหัวตะปูเมทัลลิก ดูทันสมัยทั้งในยุคปัจจุบันเฉกเช่นเมื่อ 163 ปีที่แล้ว
เสียงเพลงก็มีความโดดเด่นไม่แพ้เสื้อผ้า ศิลปินชื่อดัง เดรก (Drake) ได้รังสรรค์เพลงพิเศษสำหรับคอลเลคชั่นนี้และจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่โชว์นี้ นับเป็นอีกหนึ่งการผสมผสานระหว่างดนตรีและแฟชั่นชั้นสูง