20 YEARS OF COLETTE STORE
- 03 มกราคม 2561
-
2,965
Colette คอนเซ็ปต์สโตร์ระดับตำนานใจกลางกรุงปารีส สถานที่ที่เปรียบเสมือนเป็นเวทีแจ้งเกิดให้กับเหล่าบรรดาดีไซน์เนอร์นักออกแบบหน้าใหม่ให้มีพื้นที่ในการแสดงผลงาน รวมถึงการวางขายสินค้าทั้งที่เป็นสินค้าแบบไลฟ์สไตล์ทั่วไป รวมไปถึงแบรนด์เครื่องแต่งกายน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ดรีส แวน โนเทิน (Dries van Noten), โรดาเท่ (Rodarte), ราฟ ซิมงส์ (Raf Simoms), และแมรี่ แคทรานท์ซู Mary Katrantzou ทั้งนี้ยังรวมไปถึงแบรนด์แอคเซสซอรี่ส์ชื่อดังของเมืองไทยอย่างบอย (BOYY) หรือที่เราคุ้นปากกันในชื่อของบอยแบ้ก (BOYY BAG) ที่มีโอกาสได้ไปวางจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่นั่น อีกทั้งยังสร้างชื่อให้ BOYY กลายเป็นที่รู้จักในตลาดแฟชั่นระดับโลกอีกด้วย
กว่า 20 ปีที่ Colette ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดในการรวบรวมสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกตั้งแต่สินค้าในลักษณะที่เป็นไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นแฟชั่น ด้วยไอเดียและมุมมองที่แตกต่างของแบรนด์ทำให้ Colette กลายเป็นสถานที่ที่มักจะถูกพูดถึงและมีกระแสอยู่เสมอ อย่างการแบ่งโซนร้านค้าในการนำเสนอคอลเลคชั่นสุดพิเศษจากแบรนด์ดังอย่างบาเลนเซียก้า (Balenciaga) หรือแม้แต่การซีเลคชั่นไอเทมสุดหายากจากกุชชี่ (Gucci), ทอม บราวน์ (Thom Browne) และแบรนด์อื่นๆอีกมากมายเพื่อนำมาขายก่อนเป็นที่แรก
นอกเหนือจากสินค้าที่เป็น Rare Item จากแบรนด์ดังที่ถูกคัดสรรมาจากทุกมุมโลกแล้ว ครั้งหนึ่ง Colette ก็เคยผ่านการร่วมงานกับแบรนด์ตลาดไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็คการทำเสื้อและกระเป๋าผ้ากับ McDonald’s หรือการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของบาร์บี้ (Barbie) ไอคอนิคดอลส์ของสาวๆ ซึ่งกลยุทธ์ที่นำมาใช้เหล่านี้ ทำให้ Colette ช่วงชิง Market Share จากบูติกและร้านค้าใกล้เคียงได้อย่างถล่มทลาย
มากกว่านั้นในทุกอาทิตย์จะมีการหมุนเวียนการโชว์สินค้าใหม่ สินค้า Limited Edition เรียกได้ว่าสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับขาช้อปในตัวพื้นที่เอง หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้เดินทางไปยังปารีส ซึ่ง Colette ก็กลายมาเป็นอีกหนึ่ง Destination หรือ Landmark ย่อมๆ ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการมา Check-in และถลุงเงินในกระเป๋าไปได้ในแบบที่เราอาจจะไม่ทันได้ตั้งตัว
ในช่วงกลางปี 2017 ที่ผ่านมา Colette มีการประกาศลงใน Official Instagram ส่วนตัวว่าจะปิดให้บริการในวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งก่อให้เกิดข้อสงสัยในการปิดตัวครั้งนี้ว่าแท้จริงแล้วมีสาเหตุมาจากอะไร? และได้รับข้อสรุปที่ชัดเจนว่าทาง Colette ไม่ต่อสัญญาการเช่าในพื้นที่เดิม โดยจะมุ่งการขายในออนไลน์เพียงอย่างเดียว เพื่อตอบรับกับเทคโนโลยีและกระแสโซเชียลมีเดียในยุคปัจจุบัน
เพื่อตอกย้ำภาพจำของคนที่มีต่อ Colette ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมายังมีการทิ้งท้ายกับโปรเจ็คที่รวบรวมแบรนด์ไฮเอ็นไม่ว่าจะเป็น Balenciaga, Thom Browne และ Chanel เข้ามามีส่วนในการจัดรูปแบบของร้าน โซนนิ่ง ดิสเพลย์ต่างๆ และแว่วๆมาว่าอาณาจักร Colette ในปัจจุบันนี้จะถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นบูติกสโตร์ของ Saint Laurent ซึ่งจะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร และจะสามารถลบภาพของ Colette ใน 2 ทศวรรษที่ผ่านมาได้หรือไม่ ต้องรอดูไปพร้อมๆ กัน
